ข่าว'ชวน'กรีด'ทีมถาวร'ดื้อตะแบงอยากร่วมรัฐบาล - kachon.com

'ชวน'กรีด'ทีมถาวร'ดื้อตะแบงอยากร่วมรัฐบาล
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ระหว่างการประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามในงานทำบุญครบรอบ 73 ปี ของการก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์ ที่ห้องโถง ชั้นล่าง อาคารมูลนิธิควง อภัยวงศ์ ภายในพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งกับสมาชิกพรรคที่เป็นชาวมุสลิมว่า ตนในนามพรรคประชาธิปัตย์ขอขอบคุณทุกคน โดยเฉพาะนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ที่เหน็ดเหนื่อยเป็นพิเศษสำหรับการเลือกตั้งที่ผ่านมา ขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรค ที่เหน็ดเหนื่อยไม่แพ้กัน รวมถึงกรรมการบริหารพรรค ตลอดจนผู้ใหญ่ และผู้สมัครส.ส.ทุกคน ที่ช่วยให้เราผ่านพ้นการเลือกตั้งมาได้ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นสถานการณ์หนึ่งบนเส้นทางอันยาวไกลของพรรค แต่ต้องเดินต่อไปข้างหน้าไม่มีวันหยุด ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราเคยประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง และเคยได้ส.ส.จำนวนน้อย เมื่อปี 2522 ส.ส.ของพรรคหายไปเกินกว่าครึ่ง กระทั่งถึงปี 2529 ข้ามมาถึงปี 2531 ส.ส.ของพรรคเหลือ 48 คน แต่ในการเลือกตั้งครั้งต่อๆ มา เราชนะการเลือกตั้งจนได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกหลายครั้ง



“พรรคประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคมาแล้ว 7 คน มีความเจริญรุ่งเรืองมาตามลำดับ คงเหมือนกับชีวิตมนุษย์ที่มีขึ้นมีลง แต่ทุกท่านได้สร้างคุณูปการให้กับพรรคจนเติบโตมาถึงทุกวันนี้ แล้วยังจะต้องมีวันข้างหน้าอีก ประชาธิปัตย์จึงเป็นพรรคที่มีจุดแข็ง เรามีทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต เรามีคนทุกรุ่นที่จะเป็นกำลังสำคัญในการนำพาพรรคฟันฝ่าให้ก้าวไปข้างหน้าได้ มีบุคลากรที่มีศักยภาพพร้อมนำพาพรรครับใช้ประชาชนและประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้าภายใต้จุดหลอมรวมเดียวกันนั่นคืออุดมการณ์ของพรรคและความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงาน ผมยังเชื่อมั่นว่าประชาชนยังรักเรา และผมมั่นใจว่าประชาชนยังพร้อมให้โอกาสเรา ขออย่างเดียวว่าเราทุกคนอย่าท้อแท้ อย่าท้อถอยหรือหมดกำลังใจ ขอให้มาร่วมมือร่วมใจกัน ผมมั่นใจว่าเราจะสามารถนำพาพรรคประชาธิปัตย์ไปนั่งอยู่ในหัวใจของประชาชนได้อีกครั้งในระยะเวลาไม่นาน”นายจุรินทร์ กล่าว

ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังมั่นใจว่าอุดมการณ์ของพรรคที่ประกาศไว้ตั้งแต่ปี 2489 จะยังเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า ยังเป็นสิ่งที่ใช้ได้สำหรับสังคมไทย ประเทศไทยที่ปัจจุบันมีความท้าทายหลายเรื่องและปัญหาการเมืองในปัจจุบัน แต่พรรคที่ก่อตั้งขึ้นมาและยังดำรงคงอยู่ได้ทุกวันนี้ก็ด้วยการเคารพสิทธิพื้นฐานของประชาชนทุกกลุ่ม ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคก็มีความหลากหลาย ทำให้เราเป็นพรรคของคนทุกรุ่นและทุกภาคอย่างแท้จริง ซึ่งถ้าเรายังดำรงตรงนี้ได้ ร่วมกันเดินหน้าต่อไปด้วยความแน่วแน่ มั่นคงในอุดมการณ์ ตนมั่นใจได้ว่าในวันข้างหน้า พรรคจะได้รับการสนับสนุนจากประชาชนมากกว่านี้ ตนขอขอบคุณ ตลอดทุกช่วงเวลาที่ตนดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคได้รับการสนับสนุนและกำลังใจอย่างดียิ่งจากทุกคน ทั้งนี้ ตนขอให้ทุกคนมั่นใจว่าสิ่งที่ได้ยึดถือ ยึดมั่นกันมา และทำให้พรรคของเราดำรงอยู่ได้ทุกวันนี้จะเป็นกำลังสำคัญให้เราสามารถที่จะเดินต่อไปข้างหน้าได้



ขณะที่นายชวน กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากอาจารย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี สอบถามว่าเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์มีมติร่วมรัฐบาลกันแล้วหรือ ตนจึงบอกว่านั่นเป็นเรื่องของคณะนายถาวร เสนเนียม ว่าที่ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ตนไปนั่งฟังเพราะเขาเชิญ แต่มีคนบางกลุ่มที่เอาเรื่องนี้ไปพูด ที่จริงได้มีการขอร้องว่าควรให้ความเคารพกับคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่เป็นผู้ตัดสินใจว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่ทราบว่าเพราะอะไรเขาจึงต้องตะแบง คนอยากเป็นก็มี แต่คนที่ไม่อยากเป็นก็มี เมื่อห้ามแล้วไม่ค่อยฟัง อาจเป็นเพราะความอยากเป็นมีมาก จึงทำให้พูดออกไปเช่นนั้น ดังนั้นอย่าเพิ่งไปวิจารณ์ว่าพรรคเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ตนทราบถึงความรู้สึกของทั้งคนที่สอบได้และสอบตก ก็เห็นใจเขาเพราะคนเล่นการเมืองไม่มีใครอยากสอบตก แต่พรรคต้องเป็นหลัก พวกเราจึงไม่ต้องกังวล อยากให้ทุกคนทราบว่า เราเจอปัญหานี้มาก แต่พรรคก็ต้องพัฒนาไปข้างหน้า โดยต้องไม่ลืมอดีต ต้องยึดมั่นในหลักของบ้านเมือง ประเทศเราตัดสินใจเลือกการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และแต่ละพรรคที่สู้กัน ก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

“ผมพยายามทำงานตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.-23 มี.ค. พยายามไม่หยุด เพราะรู้ว่ามีปัญหาอยู่หลายเรื่อง จึงพยายามหาเสียงในทุกภาคเพื่อให้ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ได้มากที่สุด แต่เพียงวูบเดียวของความเปลี่ยนแปลง ทัศนคติ ความเห็น กระแส ซึ่งทำให้พวกเราแปลกใจว่าทำไมเป็นอย่างนั้น เป็นอย่างนี้ แต่นี่คือชีวิตจริง ย่อมมีวูบวาบอย่างนี้ เราจึงต้องมีหลักอยู่ตลอด อย่าไปวอกแวก ต้องยึดมั่นในแนวทางการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่วนแนวทางการเมืองและนโยบายก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่หลักการปกครองนั้น พรรคนี้มีความแน่วแน่ ขอให้ทุกคนมั่นใจได้”นายชวน กล่าว



ด้านนายบัญญัติ กล่าวว่า ในวันนี้เป็นช่วงที่เพิ่งผ่านพ้นการเลือกตั้ง ดูเหมือนหลายคนยังรู้สึกช็อกกับผลที่ออกมา แต่การพ่ายแพ้การเลือกตั้งของพรรคไม่ใช่ครั้งแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปี 2522 ที่พรรคเคยพ่ายแพ้ครั้งยิ่งใหญ่มากที่สุดครั้งหนึ่ง เหลือส.ส. 32 คน และเป็นครั้งที่นายสมัคร สุนทรเวช ได้ออกจากพรรค และกล้าสบประมาทว่าระวังพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นพรรคต่ำสิบ แต่ภายใต้ความเข้มแข็ง ความเชื่อมั่น และการสนับสนุนจากแฟนพันธุ์แท้ เมื่อประชาชนเข้าใจเรามากขึ้น ทำให้ไม่ได้เป็นพรรคต่ำสิบ แต่ได้เกินร้อย ในปี 2522 ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช หัวหน้าพรรคในขณะนั้น บอกกับสมาชิกว่าอย่าตกใจ อย่าหวั่นไหว แต่ควรกลับมาสำรวจตัวเองว่าทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นนั้นมาจากอะไร ต้องดูปัจจัยภายนอก ภายในของพวกเราเอง ซึ่งตนคิดว่าคำพูดของท่านเป็นการเติมกำลังใจและให้สติซึ่งสำคัญมาก และคิดว่าตอนนี้เรากำลังสำรวจปัจจัยภายนอกภายในกันอยู่ โดยมีอดีตส.ส.และผู้ที่อยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งเป็นนักวิชาการกำลังทำ คิดว่าอีกไม่นานจะได้ความกระจ่างแจ้ง แล้วนำไปสู่การปรับปรุงพรรคให้แข็งแรงมากขึ้น ปัจจัยหลักที่สำคัญคือกำลังใจ การที่ทุกคนมาร่วมงานในวันนี้จะเป็นกำลังใจและนำไปสู่การปรับปรุงพรรคให้เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนได้ในวันข้างหน้า.