โพลชี้การเมืองทำลายความสุข ขอเร่งสร้างความเชื่อมั่น
การเมือง

เมื่อถามถึง ความเชื่อมั่นต่อคุณสมบัติด้านต่างๆ ของผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะนำพาประเทศชาติก้าวต่อไปได้ดี พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 96.8 เชื่อมั่นว่า คนที่ไม่ก่อความขัดแย้งในสังคม เก่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จิตใจดี มีคุณธรรม ทันต่อเกมการเมือง และปกป้องเทิดทูนสถาบัน เป็นต้น จะนำพาประเทศชาติก้าวต่อไปได้ดี ในขณะที่ มีเพียงร้อยละ 3.2 ไม่เชื่อมั่น ที่น่าสนใจคือ ถ้าพรรค พลังประชารัฐ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ใครเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผลสำรวจพบว่า ร้อยละ 63.1 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในขณะที่ ร้อยละ 36.9 ระบุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
แต่ถ้า พรรค เพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ใครเหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ผลสำรวจพบว่า สูสีกันระหว่าง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือ ร้อยละ 39.6 ระบุ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในขณะที่ ร้อยละ 38.1 ระบุ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ร้อยละ 22.3 ระบุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เหมาะสมเป็น นายกรัฐมนตรี
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ความสุขของประชาชนกำลังถูกลดทอนจากสถานการณ์วุ่นวายทางการเมือง เหตุเพราะความวุ่นวายและความขัดแย้งในสังคม ที่นักการเมืองและทุกฝ่ายต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนด้วยการหาคนที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติไม่ก่อความขัดแย้งในสังคม เก่งแก้ปัญหาปากท้อง รู้ว่าจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้นอย่างไร เป็นคนดีมีคุณธรรม ปกป้องเทิดทูนสถาบันหลักของชาติ ออกมาเป็นรูปธรรมปลูกฝังในทัศนคติและพฤติกรรมที่ไม่ก้าวร้าว ไม่ก่อความวุ่นวายในสังคม ช่วยเหลือเกื้อกูล มีไมตรีจิตต่อกัน อันเป็นลักษณะเด่นที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่อย่างเห็นในตัวผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่ในผลสำรวจครั้งนี้ได้พบว่า ถ้า พรรคพลังประชารัฐ จัดตั้งรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นตัวเลือกสำคัญที่ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่าเหมาะสม แต่ถ้า พรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล ก็สูสีกันระหว่าง คุณหญิงสุดารัตน์ กับ นายธนาธร