ข่าวจ่อสาวถึงร้าน ขายเหล้าเด็กต่ำกว่า 20 ปี เมา-ขับ - kachon.com

จ่อสาวถึงร้าน ขายเหล้าเด็กต่ำกว่า 20 ปี เมา-ขับ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การเมาแล้วขับเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ดังนั้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึงนี้ ต้องมีการเข้มงวดในเรื่องของเมาไม่ขับให้มาก โดยในส่วนของกรมจะต้องเข้มงวดเรื่องการควบคุมการดื่ม สถานที่ห้ามดื่ม การห้ามขายในเวลาห้ามขาย ห้ามขายให้เด็กอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด ห้ามโฆษณา เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับข้อสงสัยอยู่เรื่องของเกณฑ์มาตรฐานปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดไม่เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์นั้น เรียนว่าใช่คนทุกวัย แต่เป็นเกณฑ์สำหรับผู้ที่มีอายุเกิน 20 ปี ขึ้นไปแล้ว ส่วนผู้ที่มีอายุ 20 ปี ลงมา กำหนดให้มีปรอมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

“กรณีหากผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เมาแล้วไปขับรถจนเกิดอุบัติเหตุนั้น เราได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของเราตรวจสอบย้อนกลับไปด้วยว่าเด็กๆ เหล่านี้ได้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาได้อย่างไร เพราะถือเป็นกลุ่มที่ห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อพบต้นตอ ร้านค้าเหล่านั้นจะถือว่ามีความผิดฐานจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกออล์ให้กลุ่มต้องห้าม ส่วนจะมีส่วนผิดมีส่วนร่วมฐานเจตนาฆ่าหรือไม่นั้นแล้วแต่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณา”นพ.สุวรรณชัย กล่าว

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า สำหรับมาตรการลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงสงกรานต์ปีนี้ ตามที่ศูนย์ความปลอดภัยทางถนนทำออกมา และครม.เห็นชอบแล้วมี 7 มาตรการ ซึ่งส่วนที่กระทรวงสาธารณสุข ต้องดำเนินการต่อคือ1. เตรียมพร้อมหน่วยกู้ชีพ ทุกระดับ รวมถึงเรื่องการลำเลียงคน โดยมีเครือข่ายทั่วประเทศ 2. เตรียมพร้อมสถานพยาบาลทั้งคน เวชภัณฑ์ วัสดุทางการแพทย์เพื่อรองรับผู้บาดเจ็บ และมีระบบส่งต่อที่มีประสิทธิภาพ 3. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อสม. ร่วมดำเนินการในระดับพื้นที่ ตั้งแต่ตำบล อำเภอ จังหวัด เช่น เข้าร่วมด่านชุมชน 4. ช่วยกันสื่อสารความเสี่ยงและกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งปีที่ผ่านมาเรามีข้อมูลว่า กลุ่มที่เสี่ยงที่เสียชีวิตมากสุดคือเยาวชน และคนทำงานช่วงต้น ดังนั้นคนในชุมชน ในพื้นที่ ซึ่งจะรู้ดีว่าลูกหลานเป็นอย่างไรก็ช่วยกันจับตา และป้องกัน ถ้าเมาก็ไม่ต้องออกไปไหน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากฝากคือ เนื่องจากว่าช่วงนี้มีวันหยุด 3 วัน พอเปิดทำงานมาไม่กี่วัน แล้วก็ไปหยุดอีก 5 วัน แพทเทิร์นการเกิดอุบัติเหตุก็จะมีความผันแปลตามรูปแบบการเดินทาง ดังนั้นขอให้วางแผนการเดินทางแต่เนิ่นๆ ปฏิบัตามกฎจรจา เมาไม่ขับ ไม่ขับรถเร็ว หากขับรถยนต์ต้องคาดเข็มขัดนิรภัย หากขับจักรยานยนตร์ต้องสวมหมวกกันน็อค และฝากอีกเรื่อง ที่ช่วงหลังพบอุบัติเหตุรถเกิดกับรถโดยสารสาธารณะบ่อยๆ ดังนั้นขอให้ผู้โดยสารสังเกต และตักเตือน หรือบันทึกหลักฐาน ซึ่งอย่างน้อยๆ ก็เป็นการป้องปรามคนขับไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมาย

ด้าน นพ.ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากสถิติ การตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดที่ส่งมาเบิกกับกรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. 2561 - 31 มี.ค. 2562 มี1,873 ตัวอย่าง พบว่าผู้บาดเจ็บมีแอลกอฮอล์ในเลือดกว่า 62 เปอร์เซ็นต์ มี 58 เปอร์เซ็นต์ที่ระดับแอลกอฮลล์ในเลือดเกินที่กฎหมายกำหนด โดยในจำนวนนี้มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงตั้งแต่ 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และมีแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป 41เปอร์เซ็นต์.