'บิ๊กลือ'ปลื้มฝึกกองทัพเรือ62โชว์ศักยภาพครบเครื่อง
การเมือง

การฝึกเริ่มด้วยการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง(สอ.รฝ.)โดยหน่วยยิงกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 ได้ทำการฝึกยิงเป้าอากาศยาน หน่วยยิงกองพันรักษาฝั่งที่ 11 ฝึกยิงเป้าพื้นน้ำ และหน่วยยิงกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 และกองพันปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพลนาวิกโยธิน ได้ทำการยิงอาวุธปล่อยประทับบ่าแบบ QW – 18 ตามลำดับ จากนั้นกองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ฝึกการวางและทดสอบกลไกการทำงานโดยอัตโนมัติของทุ่นระเบิดทอดประจำที่ปราบเรือดำน้ำแบบล่องหน(Mi9) จำนวน 2 ลูก และเข้าสู่การฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก พร้อมส่งกำลังรบยกพลขึ้นบกขึ้นสู่ฝั่งเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งบนบกตามลำดับ ตามแนวคิดจากทะเลสู่ฝั่ง

ซึ่งผลการฝึกทดสอบประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ทุกลำดับการฝึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่นระเบิด MI9 ที่กองทัพเรือทำการวิจัย และผลิตได้เอง สามารถทำงานจุดระเบิดต่อเป้าแปลกปลอมใต้น้ำและผิวน้ำที่ลักลอบผ่านเข้าในสนามทุ่นระเบิดได้โดยอัตโนมัติ กลไกการจุดระเบิดทำงานได้อย่างสมบูรณ์ นับว่าได้ผ่านการทดสอบอีกครั้งนับจากประสบความสำเร็จอย่างดีในการทดสอบที่ฝั่งอ่าวไทยในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กองทัพเรือมีอาวุธที่มีอานุภาพสูงสำหรับการป้องกันประเทศทางทะเล ที่ผลิตได้เอง ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีของต่างชาติ นำมาซึ่งความมั่นใจและภาคภูมิใจของกองทัพเรือ
ทั้งนี้กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกกองทัพเรือเป็นประจำทุกปี เพื่อบูรณาการการฝึกภายในกองทัพเรือ ด้วยการนำขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือตามสาขาต่างๆ การปฏิบัติและการสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษาที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์การฝึกเดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยการฝึกในปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร ทดสอบการอำนวยการยุทธ์ของศูนย์ปฏิบัติการต่างๆ ของกองทัพเรือ และทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการของหน่วยต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือเพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร เพื่อทดสอบแนวทางการใช้กำลัง และการอำนวยการยุทธ์ ตามคำสั่งยุทธการที่ใช้ในการฝึกในสถานการณ์ภาวะความขัดแย้งระดับปานกลางถึงระดับสูง และเพื่อทดสอบขีดความสามารถการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ

อย่างไรก็ตามกองทัพเรือได้อนุมัติให้จัดการฝึกกองทัพเรือนี้ตามวงรอบการฝึก 2 ปี โดยใช้สถานการณ์ฝึกต่อเนื่อง ซึ่งปีนี้ได้ทำการฝึกสถานการณ์ภาวะความขัดแย้งระดับปานกลางถึงความขัดแย้งระดับสูง ทำการฝึกภาคปฏิบัติในลักษณะบูรณาการ ด้วยการสนธิกำลังระหว่างหน่วยทำการฝึกโดยใช้สถานการณ์ฝึกเดียวกัน เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ ขั้นตอนการฝึกที่สำคัญในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562 ประกอบด้วย การฝึกปัญหาที่บังคับการ ซึ่งเป็นการฝึกทดสอบกระบวนการวางแผนเผชิญสถานการณ์วิกฤติ การฝึกทดสอบการตัดสินใจ ตามกระบวนการวางแผนทางทหาร และทดสอบการอำนวยการยุทธ์ตามคำสั่งยุทธการการฝึก
โดยได้ทำการฝึกระหว่างวันที่ 11 - 28 มี.ค.62 ซึ่งเป็นการฝึกสถานการณ์ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง รวมถึงการฝึกภาคสนามและภาคทะเล จะเป็นการฝึกภาคปฏิบัติในลักษณะบูรณาการ ด้วยการสนธิกำลังระหว่างหน่วยทำการฝึก โดยใช้สถานการณ์ฝึกเดียวกัน เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ และที่สำคัญจะได้มีการบูรณาการการฝึกร่วมกับกำลังของกองทัพบกและกองทัพอากาศด้วย ทำการฝึกระหว่างวันที่ 29 มี.ค.- 17 เม.ย. และระหว่างวันที่ 13 - 17 พ.ค. 62 ในพื้นที่ทั้งด้านอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน

ทั้งนี้กองทัพเรือได้จัดกำลังพลจากหน่วยต่างๆ อาวุธ และยุทโธปกรณ์ที่สำคัญเข้าร่วมการฝึกในสถานการณ์ต่างๆ ประกอบด้วย กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงบางปะกง เรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงสงขลา เรือหลวงราชฤทธิ์ เรือหลวงล่องลม เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงถลาง เรือหลวงลาดหญ้า เรือหลวงท่าดินแดง เรือหลวงแหลมสิงห์ เรือหลวงมันใน อากาศนาวี ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก กำลังรบจากกองทัพบกและอากาศยานจากกองทัพอากาศ ซึ่งการฝึกกองทัพเรือ ถือเป็นนโยบายที่ผบ.ทร.ให้ความสำคัญ เพื่อให้กำลังพลทุกระดับ และทุกหน่วยรบ มีความพร้อมสูงสุด ให้กองทัพเรือสามารถ รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้ ตั้งแต่สถานการณ์ปกติจนถึงสถานการณ์วิกฤตขั้นสูงสุด.

