ข่าวจ่อลงทะเบียนผู้มีสิทธิรับเงินอุดหนุน เลี้ยงดูเด็กแรกเกิด - kachon.com

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีพัฒนาการที่สมวัยของเด็กแรกเกิด ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาและส่งเสริมสร้างศักยภาพคนของยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติฉบับที่1 (พ.ศ. 2555 – 2559) และฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) ที่ได้กำหนดไว้  จึงได้สร้างระบบคุ้มครองทางสังคม ด้วยการจัดสวัสดิการเงินอุดหนุนให้กับเด็กแรกเกิดในครัวเรือนยากจนหรือเสี่ยงต่อความยากจน เพื่อเป็นมาตรการให้บิดา มารดา นำเด็กเข้าสู่ระบบบริการของรัฐ และได้รับการดูแลให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งเป็นหลักประกันให้เด็กได้รับสิทธิด้านการอยู่รอดและการพัฒนาตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

โดยที่ผ่านมาได้กำหนดแผนการดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็น 4 ระยะ ดังนี้

ระยะที่ 1 ดำเนินการตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติฉบับที่1 (พ.ศ. 2555 – 2559) เน้นการบูรณาการกับทุกภาคส่วนโดยให้เงินอุดหนุนในการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ให้กับเด็กที่เกิดตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 – วันที่ 30 กันยายน 2559 รายละ 400 บาท เป็นระยะเวลา 1 ปี

ระยะที่ 2 พ.ศ. 2560 – พ.ศ. 2561 เพิ่มการลงทุนกับการพัฒนาเด็กมากยิ่งขึ้นตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) โดยเพิ่มวงเงินจาก 400 บาท เป็น 600 บาท ต่อคน และขยายระยะเวลาเพิ่มจาก 1 ปี เป็น 3 ปี

ระยะที่ 3 พ.ศ. 2562 – พ.ศ. 2564 สนับสนุนเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ 0 – 6 ปี และขยายฐานรายได้ เป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี จากฐานเดิม 36,000 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และให้มีการศึกษาผลสัมฤทธิ์ของโครงการคู่ขนานไปจนสิ้นสุดแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560 – 2564) หลังจากนั้นพิจารณาการขยายสวัสดิการแบบถ้วนหน้าเป็นระยะที่ 4 ต่อไป   

โดยเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2562 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการดำเนินการตามแผนระยะที่ 3 คือ ขยายระยะเวลาให้เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นตั้งแต่แรกเกิด – 6 ปี และขยายฐานรายได้ครอบครัวเป็นไม่เกิน 100,000 บาท ต่อคน ต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ 2562 เป็นต้นไป

ดร. สมคิด สมศรี อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า เด็กที่จะได้รับเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตาม ครม. เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 62 นั้น มี 3 กรณี ดังนี้ 1. เด็กที่เกิดในปีงบประมาณ 2559 – 2561 (ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2558 – 30 ก.ย.2561) และเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิ์รายเดิมจะได้รับเงินต่อเนื่องจนอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์

2. เด็กที่เกิดในปีงบประมาณ 2559 – 2561 (ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2558 – 30 ก.ย. 2561) ที่มีคุณสมบัติครบแต่ไม่เคยได้รับสิทธิ์มาก่อน ให้ไปลงทะเบียนที่ท้องถิ่น หากเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วน จะได้รับเงินภายใน 60 วัน นับจากวันที่ลงทะเบียนจนถึงมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์

3. เด็กที่เกิดในปีงบประมาณ 2562 (1 ต.ค. 2561 – 30 ก.ย.2562) กรณีมาลงทะเบียนในปีงบประมาณ 2562 จะได้รับสิทธิ์นับจากวันที่เด็กเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ แต่หากมาลงทะเบียนช้าหลังจากปีงบประมาณ 2562 ไปแล้ว (30 ก.ย.2562) จะได้รับเงินนับจากวันที่ลงทะเบียนเป็นต้นไป จนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดรับลงทะเบียน ในเดือนพ.ค. 2562 นี้ และจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดให้แก่ผู้มีสิทธิ์ได้ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2562 เป็นต้นไป.