เมื่อวันที่ 9 เม.ย. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้
างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล และกรมกิจการสตรีและสถาบั
นครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่
นคงของมนุษย์(พม.) และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า จัดแถงข่าวรณรงค์รับมือสงกรานต์ ภายใต้แนวคิด “สงกรานต์ปลอดภัย ปลอดเหล้า เค
ารพสิทธิ” ทั้งนี้ในงานได้ร่วมกันปล่
อยขบวนสามล้อประชาสัมพันธ์“สงกร
านต์ปลอดภัย ปลอดเหล้า เคารพสิทธิ”
น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผอ.
สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจั
ยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี2560 พบคนไทยดื่มสุรา ร้อยละ 28.4 ที่น่าห่วง คือ 2.75 ล้านคนติดสุรา หรือมีพฤติกรรมดื่มแบบอันตราย สำหรับสงกรานต์ ปี 2561 ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา พบคนไทยดื่มสุรา ร้อยละ36 ผลกระทบรอบตัวมากมาย ทั้งปัญหาสุขภาพ ก่อให้เกิดโรคตับแข็ง มะเร็ง และหลอดเลือดสมอง รวมถึงเสียชี
วิตจากอุบัติเหตุกว่าปีละ 20,
000 คน ปัญหาล่วงละเมิดทางเพศ ดังนั้
น สสส.จึงขับเคลื่อนรณรงค์ให้
คนไทยลดการบริโภคสุราเพื่อลดต้
นเหตุของปัญหาต่างๆอย่างเช่
นการจัดพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ป
ลอดเหล้า ปัจจุบันมี 164 แห่ง เช่น ถนนตระกูลข้าว 51 แห่ง และถนน พื้นที่เล่นน้ำต่างๆ อีก 113 แห่งตามแหล่งท่องเที่ยว และห้างสรรพสินค้าบางแห่ง จึงอยากชวนประชาชนให้ไปเล่นน้ำ
ที่พื้นที่เล่นน้ำปลอดภัยเคารพสิ
ทธิ เล่นน้ำแบบวิถีไทย ร่วมกันเปลี่
ยนพฤติกรรมเพื่อความสุข ความปลอดภัยช่วงสงกรานต์นี้ด้
วยกัน
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผอ.มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล กล่าวว่า มูลนิธิได้ สำรวจความเห็นประชาชนอายุ 12ปี – 25ปี 2,400 คน ทั่วประเทศ ต่อเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่13-27 มี.ค.ที่ผ่านมา พบ ร้อยละ 48.7 เคยถูกลวนลามคุกคามทางเพศในช่
วงสงกรานต์ ส่วนพฤติกรรมเสี่ยงและน่าเบื่
อหน่าย สร้างปัญหามากในช่วงสงกรานต์ 5
อันดับแรก ได้แก่ 1.เมาขาดสติ 2.ฉวยโอกาสลวนลามคุกคามทางเพศ 3.ทะเลาะวิวาท 4.อนาจารโป๊เปลือย 5.แว๊นซิ่ง ส่วนปัญหาอื่นคือเสี
ยงดังอึกทึก โดนแซวพูดจาไม่ดี ใช้อุปกรณ์อั
นตราย เช่น แมงลัก น้ำแข็ง ปืนแรงดันสูง บังคับให้ดื่
มแอลกอฮอล์ และดักรถเพื่อรี
ดไถเงิน ข่มขู่ ส่วนสาเหตุของพฤติกรรม ร้อยละ 32.9 มาจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้
อยละ20.4 การการบังคับใช้กฎหมาย ร้อยละ 19 คึกคะนอง ร้อยละ15.3 ค่านิยมผิดๆ และ12.4 ไม่เคารพให้เกียรติผู้
อื่น ทั้งนี้นอกจากเมาแล้
วการลงนลามยังเป็นเพราะคิดว่
าชายเป็นใหญ่ และสงกรานต์คือโอกาสทอง อย่างไรก็ตามเราพบว่าคน ร้อยละ 59.1 ระบุว่าไม่ดื่มในช่วงสงกรานต์ ร้อยละ 89.6 เห็นด้วยควรจัดพื้
นที่เล่นน้ำปลอดเหล้า และร้อยละ73.5เห็นด้
วยควรงดขายสุราในวันที่13เม.ย.
ด้าน พ.ต.อ.เผด็จ ภู่บุบผากาญจน ผู้กำกับการฝ่
ายอำนวยการ สำนักงานกฎหมายและคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวว่า ปัญหาที่มักจะเกิดช่วงสงกรานต์ และมีความผิ
ดตามประมวลกฎหมายอาญา อาทิ การคุกคามทางเพศ จับก้นจับหน้าอก อวัยวะเพศ กระทำอนาจารผู้อื่น จำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ การอน
าจาร เปลือย เปิดเผยร่างกาย หรือลามก โทษปรับไม่เกิน 500 บาท การเมา
ประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ โทษปรับไม่เกิน 5พันบาท ส่
วนความผิดเกี่ยวตามพ.ร.บ.ควบคุ
มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เช่น ห้ามขายให้ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20
ปี หรือข่ายให้คนเมาครองสติไม่ได้ โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ห้ามดื่
มบนรถขณะรถอยู่บนทาง วิ่งหรือจอดบนถนน โทษจำคุกไม่
เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การห้
ามขายบนทาง ถนน ไหล่ทาง,ห้ามจัดส่งเสริ
มการขายลด แลก แจกแถม ก็มีโทษเท่ากัน ส่วนพระราชบั
ญญัติจราจร พ.ศ. 2522กรณีเมาแล้วขับ โทษจำคุกไม่เกิน 1ปี ปรับ 5 พัน-2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.