ข่าวผู้ตรวจฯเรียกถกปัญหาพาราควอตปลายเม.ย.นี้ - kachon.com

ผู้ตรวจฯเรียกถกปัญหาพาราควอตปลายเม.ย.นี้
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการควบคุมสารเคมีอันตรายพาราควอตที่ใช้ในการเกษตรว่า ล่าสุดผู้ตรวจการแผ่นดินจะเชิญประธานคณะกรรมการวัตถุอันตราย และอธิบดีกรมวิชาการเกษตร รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านผลกระทบของวัตถุอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมมาหารือร่วมกันถึงศักยภาพขีดความสามารถ และปัญหาอุปสรรค ปลายเดือนเม.ย.นี้ หลังจากที่คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังไม่ได้ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ขอให้ยกเลิกการใช้สารอันตรายนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไป และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกประกาศเกี่ยวกับการจำกัดการใช้การถ่ายทอดความรู้ เกี่ยวกับวัตถุอันตรายพาราควอตแก่ประชาชนแล้วเร่งพัฒนาวิธีอื่นขึ้นมาทดแทนซึ่งในปัจจุบันนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับการบริหารราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรมพิจารณาเร่งดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ในการเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเป็นไปตามมาตรา 25 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน หากไม่มาจะมีโทษตามมาตรา 55 จำคุกไม่เกิน 6 เดือนปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้พล.อ.วิทวัส ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มราคาสูงกว่าปกติร้อยละ 40-50 ภายในสนามบินท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอให้ควบคุมอาหารและเครื่องดื่มไม่ให้เกินราคาเฉลี่ย เช่น ขายน้ำดื่มราคา 10 บาท และเพิ่มจุดจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม มีราคาถูก สำหรับกรณีบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ออกประกาศคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ภายในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและประกาศคัดเลือกผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร หรือดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่และหาดใหญ่ โดยมีการให้สิทธิ์ ผู้บริหารจัดการในแต่ละประกาศเพียงรายเดียว ซึ่งขัดต่อข้อเสนอของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้ดำเนินการไม่น้อยกว่า 3 ราย 

โดยผู้ตรวจการแผ่นดินกำลังเร่งติดตามผลชี้แจงจากทอท. พร้อมกำหนดการประชุมร่วมกับทอท.และกระทรวงคมนาคม รวมถึงกระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้น เพื่อสอบถามถึงเหตุผลที่ไม่สามารถปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินได้ภายในเดือน พ.ค.นี้ แต่ถ้าหารือกันแล้วยังไม่ปฏิบัติตามอีก ก็จะถือว่าหัวหน้าหน่วยงานมีเจตนาไม่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งตามกฎหมายให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินส่งรายงานไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  โดยป.ป.ช.ต้องยึดสำนวนการสอบสวนของผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นหลัก กรณีมีพฤติกรรมจงใจไม่ปฏิบัติหน้าที่ทำให้ราชการเกิดความเสียหาย ซึ่งสามารถผิดได้ทั้งทางวินัยและอาญา.