ข่าวร้อง'บิ๊กตู่'คุ้มครองพยาน ปูดมีการเจรจาผู้มีอำนาจไม่ให้ยุบพรรค - kachon.com

เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์  นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะอดีตผู้สมัครส.ส.พัทลุง เขต 2   แถลงว่า  จากกรณีที่ตนแถลงข่าวถึงกับการทุจริตเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พัทลุง ขอยืนยันอีกครั้งว่าเรื่องนี้เป็นการดำเนินการที่ได้เตรียมการและเป็นขบวนการที่ใหญ่มาก โดยเป็นการถ่ายรูปบัตรประชาชนในพื้นที่นี้ ประมาณ 60,000 ใบ เพื่อเตรียมการซื้อเสียง และมีกรรมการบริหารพรรคของผู้ที่กระทำการดังกล่าวรู้เห็นเป็นใจด้วย จึงหมายความว่าต้องมีการยุบพรรคการเมืองนั้น แต่วันนี้ ตนได้รับทราบในทางลับว่าเริ่มมีความพยายามต่อรองกันระหว่างพรรคดังกล่าวกับผู้มีอำนาจในประเทศนี้ว่าขอให้แค่มีการเลือกตั้งใหม่ อย่าให้ถึงขั้นยุบพรรคนั้นเลย มิฉะนั้นจะกระทบกับการจัดตั้งรัฐบาล เพราะพรรคดังกล่าวน่าจะได้ร่วมรัฐบาล ซึ่งมีการพูดคุยกันในระดับสูงแล้ว แต่หลักฐานที่ตนนำเสนอไปนั้นระบุความเชื่อมโยงไปถึงกรรมการบริหารพรรคดังกล่าวว่ามีส่วนร่วมหรือรู้เห็นในการทุจริต ซึ่งตามกฎหมายถือว่าเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมีการยุบพรรค  ทั้งนี้ที่ผ่านมา ตนเคยทำเรื่องยุบพรรคการเมืองมาแล้ว 2 ครั้ง และกรณีนี้ ตนมั่นใจในหลักฐานว่ามีความหนาแน่นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมีเอกสารที่โกหกไม่ได้ และเป็นพยานหลักฐานที่หักล้างไม่ได้

นายนิพิฏฐ์ กล่าวต่อว่า  เนื่องจาก ตนเปิดเผยเรื่องทุจริตก่อนมีพระราชกฤษฎีกาการเลือกตั้งทั่วไป และเป็นคนแรก ที่ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่ามีการทุจริตเลือกตั้ง  ดังนั้นการสอบสวนต้องเร็ว ซึ่งตนไม่ติดใจว่าจะเลือกตั้งใหม่หรือจะยุบพรรค แต่วันนี้กกต.ต้องได้ข้อยุติแล้ว ถ้าไม่มีข้อยุติ ก็เป็นความแปลกประหลาด และตรงตามข้อสันนิษฐานของตนที่ว่ามีการเจรจากันระหว่างผู้มีอำนาจกับพรรคนั้น เพื่อถ่วงเวลาการสอบสวนเรื่องนี้ให้ยาวออกไปโดยอาจมีการรับรอง ส.ส.ก่อนแล้วจึงสอยในภายหลัง ทั้งที่เรื่องนี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น มิฉะนั้นจะทำลายความน่าเชื่อถือของ กกต.  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พยานของตนหลายคนต้องหนีออกต่างจังหวัด เพราะกลัวจะถูกทำร้าย  ตนจึงจะไปยื่นหนังสือถึงเลขาธิการ กกต.ในวันนี้ (10 เม.ย.) เวลา 13.00 น. เพื่อขอให้กกต.เร่งการสอบสวนคดีทุจริตการเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 2 จ.พัทลุง ให้ยุติโดยเร็ว และขอให้คุ้มครองพยาน 3 คน เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต.ในการดูแลเรื่องนี้ ถ้าพยานคนใดบาดเจ็บ หรือล้มหายตายจาก ก็น่าจะมาจากสาเหตุที่มาเป็นพยานกรณีทุจริตการเลือกตั้งดังกล่าวเท่านั้น และต่อไปนี้จะไม่มีใครมาเป็นพยานในการซื้อเสียง

“จึงอยากให้มีการคุ้มครองพยานด้วย ผมขอเรียกร้องถึงหัวหน้าคสช.ให้คุ้มครองพยาน ถ้าพยานของผมได้รับบาดเจ็บหรือล้มตาย ผมจะโทษหัวหน้าคสช.ที่ไม่ดูแล”นายนิพิฏฐ์ กล่าวและว่า  การร้องเรียนครั้งนี้ของตนไม่สามารถนำไปสู่การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ เพราะเป็นข้อร้องเรียนในเขตเลือกตั้งเท่านั้น และขอยืนยันว่าไม่ได้ต้องการยื่นเรื่องให้ตรวจสอบโดยใช้อารมณ์หรือเพราะแพ้การเลือกตั้ง แต่เป็นข้อมูลที่ได้รับมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง จึงอยากให้มีการตรวจสอบให้ถูกต้อง.