"บิ๊กตู่"ชี้เรียนรู้ประวัติศาสตร์จะได้ไม่เป็นคนโง่
การเมือง
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะได้ร่วมรำวงเพลง "ระบำสาวกันตรึม" อย่างครึ้นแครง ก่อนรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ จำนวน 6 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้มีคุณยายเนียร พงศ์พิชัย อายุ 102 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่มีอายุมากที่สุด โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า หากเราไม่รู้ว่าประเทศไทยของเราเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง เราก็จะไม่เกิดแรงบันดาลใจ ดังนั้นเราจำเป็นต้องเรียนรู้จะได้ไม่เป็นคนโง่ และต้องนำประวัติศาสตร์มาประยุกต์ในปัจจุบัน สิ่งไหนดีก็ทำต่อไป สิ่งไหนไม่ดีอย่าทำ และจะต้องทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ถ้าจะมุ่งเน้นติติงกันทุกเรื่องก็ทำไม่ได้
“วันนี้มีความสุขเหมือนได้เจอคุณพ่อ คุณแม่อีกครั้งหนึ่ง วันนี้คุณพ่อของผมความจำไม่ค่อยดีแล้ว แต่คุณแม่เสียไปนานแล้ว ดังนั้นขอฝากพวกเราให้เป็นหลักประเทศ เพราะเราเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ เป็นพ่อเป็นแม่ ควรจะให้กำลังใจเขาและบอกเขาสิ่งสำคัญที่สุด เขาจะต้องมีหลักตัวเองในเรื่องของสถาบัน วันนี้ต่างประเทศมาเกี่ยวข้องกับเราเยอะ มีทูตฯหลายสิบประเทศในประเทศไทย ถ้าเราทำอะไรไม่ดีออกไปต่างประเทศความมีเสถียรภาพ การค้าจะหายหมด ฉะนั้นการเป็นประชาธิปไตย ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น แต่จะทำอย่างไรให้เป็นประชาธิปไตยในแบบที่บ้านเมืองสงบ นั่นคือการปฏิรูป ซึ่งผมทำคนเดียวไม่ได้ ต้องช่วยกัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้ร้องเพลงตามคำขอของผู้สูงอายุ คือ เพลง “จงรัก”และเพลง “คนดีไม่มีควันตาย” พร้อมกับกล่าวว่า อะไรก็ตามที่จะทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข ขอให้เตือนลูกหลานให้ได้ เราต้องอยู่แบบสังคมสงบสุข เราจะทะเลาะกันอีกไม่ได้แล้ว ยิ่งทะเลาะกันเท่าไหร่ จะทำให้ประเทศเสียหาย อะไรเป็นเรื่องกฎหมายก็แก้กันไป โดยคนที่มีหน้าที่ หากไม่พอใจก็ร้องอุทธรณ์ ซึ่งเขามีกติกาทั้งหมด ซึ่งวันนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันเยอะ แต่ตนก็ไม่อาจจะไปแก้ตัวให้กับใครได้ เพราะแต่ละคนหน้าที่ไม่เหมือนกัน ถ้ายุ่งทุกเรื่องก็จะกลายเป็นรัฐบาลที่ถูกเขาว่าอีก ถ้ามีอำนาจจริงจะชี้ให้คนนั่งตรงหน้าสาวขึ้นกว่าเดิม.