ข่าว2วันแรก"7วันอันตราย"เสียชีวิตพุ่ง105รายเจ็บกว่าพันคน - kachon.com

เมื่อวันที่ 13 เม.ย.  ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)  น.ต.วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ว่า  ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2562 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานและภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 12 เม.ย.2562 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” เกิดอุบัติเหตุ 501 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 57 ราย ผู้บาดเจ็บ 521 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 35.13 ขับรถเร็ว ร้อยละ 29.94 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 78.71 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 61.88 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.12 ถนนใน อบต.หรือหมู่บ้าน ร้อยละ 38.12 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 27.54 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 25.78 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,036 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,132 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 890,550 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 201,772 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 54,921 ราย ไม่มีใบขับขี่ 52,106 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 23 ครั้ง  จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี  7 ราย  จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด คือ นครราชสีมา (27 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 2 วัน ระหว่างวันที่ 11–12 เม.ย.2562 เกิดอุบัติเหตุ 969 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 105 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,001 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 28 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 43 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ ลพบุรี 7 ราย  ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 50 คน 


น.ต.วรวิทย์ กล่าวอีกว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันที่ 11–12 เม.ย.2562 พบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวงและถนนใน อบต.หรือหมู่บ้าน ศปถ.จึงสั่งกำชับให้จังหวัดเข้มข้นดูแลทั้งเส้นทางสายหลัก สายรอง และถนนในชุมชน/หมู่บ้าน รวมถึงเส้นทางโดยรอบงาน “มิดไนท์ สงกรานต์” เข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ห้ามจำหน่าย ช่วงเวลา และการจำหน่ายให้เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี พร้อมกวดขันการเร่ขายบริเวณพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ สถานที่จัดงานรื่นเริง หรือริมทาง ควบคุมการเปิด–ปิดสถานบันเทิงตามเวลาที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวัดซึ่งเป็นที่นิยมเล่นน้ำสงกรานต์ มีแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ หรือมีสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ ตลอดจนเข้มงวดสถานประกอบการเช่ารถยนต์และรถจักรยานยนต์ ให้ตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่รถของผู้เช่ารถ ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ควบคู่กับการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด  


ขณะที่นายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยกำชับจังหวัดบูรณาการทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และภาคประชาชน เพิ่มความเข้มข้นในการลดอุบัติเหตุทางถนนในระดับพื้นที่ เน้นปฏิบัติการจัดตั้งด่านชุมชนในจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง พร้อมดูแลความปลอดภัยในการเล่นน้ำของประชาชนไม่ให้มีการเล่นน้ำบริเวณเส้นทางเสี่ยงอุบัติเหตุในเส้นทางสายหลักและสายรอง รวมถึงควบคุมไม่ให้เล่นน้ำในลักษณะที่ก่อให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบรรทุกคนเล่นน้ำท้ายกระบะ อีกทั้งสนธิกำลังจัดตั้งจุดตรวจบริเวณเส้นทางโดยรอบพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาหลังจากประชาชน เล่นน้ำสงกรานต์ เพราะสภาพถนนที่เปียกลื่น และความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุทางถนน

ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า วันนี้ (13 เม.ย.) เป็นวันมหาสงกรานต์ ศปถ.จึงกำชับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ ให้มีความปลอดภัยและปราศจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่งเสริมการเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทย พร้อมรณรงค์สร้างจิตสำนึกความปลอดภัยทางถนนผ่านทุกช่องทางสื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหอกระจายข่าว เสียงตามสาย และวิทยุชุมชน ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนให้เล่นน้ำสงกรานต์อย่างปลอดภัยและรู้คุณค่า เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์ให้เป็นเทศกาลแห่งความสุขและความปลอดภัย.