จี้ลงโทษหนัก"เสี่ยซิ่งเบ้นซ์"ชนรองผกก.ดับ
การเมือง
-
สนับสนุนเนื่อหา
-
เมื่อวันที่ 13 เม.ย. นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวถึงกรณีนักธุรกิจก่อเหตุเมาแล้วขับรถจรเกิดอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิตสองราย คือพ.ต.ท. จตุพร งามสุวิชชากุล รอง ผกก. (สอบสวน) กองกำกับการ 2 กองปราบปราม และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล ภรรยาอายุ 44 ปี ส่วนนางสาวพิญาภา งามสุวิชชากุล ลูกสาวอายุ 16 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ว่า ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสีย จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ซึ่งต้องติดตามว่าผลสิ้นสุดของคดีนี้จะเป็นอย่างไร นโยบายรัฐบาลในการจัดการกับปัญหาเมาแล้วขับ ด้วยการให้เป็นเจตนาเล็งเห็นผลหรือเจตนาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต มิใช่แค่ประมาทนั้น จะมีผลนำไปสู่การลงโทษอย่างไร ซึ่งหากกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ต้นน้ำคือพนักงานสอบสวนไปจนถึงอัยการและศาล เห็นไปในทางเดียวกันเชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญต่อปัญหาเมาแล้วขับ อย่างไรก็ตามจากการติดตามข้อมูลของตำรวจพบว่าผู้ก่อเหตุไปดื่มมาจากสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าสถานที่แห่งนี้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้ที่มีอาการมึนเมาครองสติไม่ได้ด้วยใช่หรือไม่ เพราะจะเป็นความผิดตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับด้วย จึงไม่อยากให้พนักงานสอบสวนละเลยในจุดนี้ ควรพิสูจน์ไปให้ถึง เพื่อทำให้บรรดาผู้ประกอบการที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความรับผิดรับชอบจากสินค้าของตัวเองด้วย ซึ่งจะเป็นการยกระดับในภาพรวมของปัญหา ไม่ใช่ให้ผู้ดื่มรับผิดเพียงฝ่ายเดียว คนขายสินค้าที่สร้างผลกระทบขนาดนี้ต้องตระหนักและรับผิดชอบมากกว่านี้ เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้วทั้งญี่ปุ่นหรืออเมริกา
“นี่ไม่ใช่การออกกฎหมายใหม่ แต่เป็นการนำกฎหมายที่มีอยู่เดิม มาบังคับใช้ในระดับที่เข้มข้นเท่านั้น และเชื่อว่ายังมีอีกหลายกรณีที่เกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงอยากเห็นการบังคับใช้กฎหมายไปในทิศทางนี้ และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ละเลย พยายามทำสำนวนให้อ่อน ช่วยเหลือวิ่งเต้น ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต้องโดน 157 ด้วย” นายชูวิทย์ กล่าว
ด้าน นางรัชฐิรัชฎ์ ซุ่นสั้น ภรรยาดาบตำรวจเหยื่อเมาแล้วขับชนเสียชีวิต 5 ศพ เมื่อ ปี 2560 ที่จังหวัดตรัง กล่าวว่า เข้าใจความรู้สึกครอบครัวญาติพี่น้องผู้สูญเสีย เพราะตนเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว กรณีนี้น้องที่อาการโคม่าต้องสูญเสียทั้งพ่อและแม่ และทราบว่ายังมีพี่น้องอีกคนที่เรียนอยู่ต่างประเทศ คงกระทบต่อสภาพจิตใจอย่างรุนแรง ควรมีนักจิตวิทยาเข้าไปช่วยดูแลเยียวยาทั้งตัวน้องและคนรอบข้าง และขอภาวนาให้น้องหายโดยเร็ว กลับมามีพลังใจในการใช้ชีวิต ส่วนตัวเชื่อว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงจะดูแลอย่างเต็มที่เช่นเดียวกับกรณีของตน ส่วนผู้ก่อเหตุ ประชาชนทั้งประเทศกำลังจับตาคดี อยากเห็นการลงโทษเป็นเจตนาทำให้เสียชีวิตไม่ใช่แค่ประมาท เพราะที่ผ่านมามีแค่ประมาท ปัญหาเมาแล้วขับจึงไม่ลดลง กรณีสามีตนถูกคนเมาแล้วขับชนเสียชีวิต 5 ศพ บาดเจ็บอีกหลายราย ตอนนี้ผู้ก่อเหตุติดคุกเพียง 4 ปี ส่วนการฟ้องเพ่งกับคนขับ ผู้ก่อเหตุและนายจ้างเจ้าของรถ ศาลเพ่งพิพากษาให้ชดใช้ค่าเสียหายแล้ว แต่จำเลยอยู่ระหว่างอุทรณ์ ซึ่งก็ต้องสู้กันต่อไปเพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้อง
ทั้งนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากทำให้ใครตาย แต่สามัญสำนึกของคนเมาแล้วขับ คุณต้องรู้ว่าคุณกำลังตั้งใจฆ่าหรือทำให้คนอื่นบาดเจ็บ เสียหาย การกระทำมันบอกชัดเจน เราต้องใช้ยาแรงกันอย่างจริงจังเสียที เพราะมาตรการเดิม แค่ประมาท มันรับมือกับปัญหาเมาไม่ขับไม่ไหวถ้ากฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ความผิดฐานเมาแล้วขับคงไม่เพิ่มมากขนาดนี้ ชีวิตทุกชีวิตมีค่าอย่ารอให้สูญเสียขึ้นมาแล้วมาเสียดายทีหลัง และต้องขอบคุณรัฐบาลที่มีนโยบายนี้ออกมา เพราะแม้จะมีกฎหมายอยู่แล้วแต่ถ้าไม่มีความชัดเจนทางนโยบายกฎหมายก็เป็นเพียงเสือกระดาษ แต่ครั้งนี้คงได้เห็น ไม่ว่ายากดีมีจน หรือร่ำรวยมาจากไหน คนผิดเมาแล้วขับต้องโดนลงโทษฐานเจตนาทำให้เสียชีวิตมิใช่ประมาท.