ข่าว"ศปถ."สรุปอุบัติเหตุสงกรานต์3วัน ตาย174ราย - kachon.com

เมื่อวันที่ 14 เม.ย.เวลา 10.30 น.ที่บริเวณชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม  ได้ ประชุวีดิโอคอนเฟอร์เรนท์ จาก จ.สกลนคร ร่วมกับศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนทุกจังหวัดพร้อมที่ศูนย์กลาง ในกทม. โดยได้เชิญพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่รับสั่งผ่านราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยทรงห่วงใย ในเรื่องอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้พิจารณาใช้จิตอาสา ปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่  และท้องถิ่น  ในทุกจังหวัด และทุกพื้นที่ ดังนี้ คือ 1.ให้อำนวยความสะดวกด้านการจราจร 2. ร่วมรณรงค์ ไม่ให้ประชาชน ดื่มสุราแล้วขับขี่ยานพาหนะ และ 3.ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด บูรณรการการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถและดำเนินมาตราการให้เข้มข้น ในการลดอุบัติเหตุทางถนน โดยหากต้องการการสนับสนุนใดๆให้เสนอความต้องการผ่านทางกองงานในพระองค์ ซึ่งพร้อมจะช่วยสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดและทุกๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน้อมนำพระราชกระแสรับสั่งนี้ ไปปฏิบัติอย่างเข้มในช่วงเวลาที่เหลืออยู่นี้ 

จากนั้น นายชาย นครชัย อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 62 เปิดเผยว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2562 (ศปถ.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 13 เม.ย.62  ซึ่งเป็นวันที่สาม ของการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจรักษาวินัยจราจร” ปรากฎว่า เกิดอุบัติเหตุ 700 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 67 ราย ผู้บาดเจ็บ 733 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 42.71 ขับรถเร็ว ร้อยละ 26.14 ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 81.08 ซึ่งส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 66.43 บนถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 37.29 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 37.00 สำหรับช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 32.43  ขณะที่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 21.75 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก2,042 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 65,444 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 1,023,123 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 226,655 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 63,196 ราย ไม่มีใบขับขี่ 57,520 รายโดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จ.สกลนคร  จำนวน 28 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดได้แก่ จ.บุรีรัมย์ น่าน และอุดรธานี  จังหวัดละ 4 รายส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่จ.สกลนคร  33 คน 

สำหรับยอดสรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 3 วัน (วันที่ 11 – 13 เม.ย. 62) เกิดอุบัติเหตุ 1,665 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 174 ราย ผู้บาดเจ็บ 1,728 คน  โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 17 จังหวัด  ส่วนจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช จำนวน69 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.อุดรธานี จำนวน 10 ราย ส่วนจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช  จำนวน 69 คน

นายชาย กล่าวต่อว่า ในหลายพื้นที่ยังคงเล่นน้ำสงกรานต์และมีการเฉลิมฉลองด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้ถนนสายรองที่เชื่อมต่อเส้นทางสายหลักและระหว่างอำเภอมีสถิติอุบัติเหตุทางถนนสูง ศปถ. ได้กำชับจังหวัดประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องเน้นการดูแลบริเวณสถานที่จัดงาน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ พื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ และเส้นทางโดยรอบพื้นที่โซนนิ่งเป็นพิเศษ รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานของด่านชุมชน จุดตรวจ และจุดสกัด เพื่อเฝ้าระวังผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ ขับรถเร็วกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เล่นน้ำที่ไม่สวมหมวกนิรภัย และรถกระบะบรรทุกคนเล่นน้ำที่ใช้ความเร็วพร้อมทั้งให้เข้มงวดการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในพื้นที่ท่องเที่ยวทุกแห่งทั่วประเทศ อีกทั้งรณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ตามประเพณีวิถีไทย “เล่นน้ำแบบไทย ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า” ไม่เล่นน้ำในลักษณะรุนแรง ตลอดจนรณรงค์การแต่งกายที่สุภาพและเหมาะสม เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทยและเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย 

  
ด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้ากลุ่มงานภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง เปิดเผยว่า จากสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในช่วง 3วันที่ผ่านมา พบว่า ผู้เสียชีวิตกว่าร้อยละ 54.60 เป็นคนในพื้นที่ โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ขับขี่ ร้อยละ63.79 ผู้โดยสาร ร้อยละ 25.86 โดยสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตเกิดจากการขับรถเร็ว ซึ่งมีอัตราการเสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุสูงถึง ร้อยละ 49.43 กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยปฏิบัติในระดับพื้นที่เข้มข้นการปฏิบัติงานของด่านชุมชน และจุดสกัดในพื้นที่ชุมชน/หมู่บ้านโดยเฉพาะจุดเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เน้นกวดขันผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็วและดื่มแล้วขับเป็นพิเศษ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวและจัดงานสงกรานต์ ได้กำชับให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่โซนนิ่งเล่นน้ำสงกรานต์และเส้นทางโดยรอบพื้นที่เล่นน้ำรวมถึงดูแลการเปิด – ปิดสถานบริการ สถานบันเทิง โดยเข้มงวดกวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลักษณะเร่ขายในพื้นที่เล่นน้ำสงกรานต์ เพื่อลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนและการเล่นน้ำไม่ปลอดภัย  
  
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เปิดเผยว่า ศปถ. ได้ประสานจังหวัดดำเนินมาตรการทางสังคมและมาตรการชุมชนอย่างเข้มข้นในการดูแลความปลอดภัยทางถนนในพื้นที่ โดยให้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ทหาร อาสาสมัคร และชุดสายตรวจเคลื่อนที่คุมเข้มมิให้นำรถกระบะบรรทุกคนเล่นน้ำในพื้นที่โซนนิ่งและบริเวณที่จัดงานสงกรานต์ เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ช่วงวันที่ 14 – 16 เม.ย.62ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนในลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ซึ่งสภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการขับขี่ไม่ดี อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอฝากเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางและปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ เพื่อให้การเดินทางและการเล่นน้ำสงกรานต์เป็นไปด้วยความปลอดภัย.