"จุรินทร์"ชี้สถานการณ์การเมืองยังพลิกผันรอผลเลือกตั้งนิ่ง
การเมือง

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ที่เป็นอยู่สะท้อนถึงกลุ่มคนที่ร่างกติกาที่ทำให้เกิดปัญหา ทั้งการร้องคัดค้านผลการเลือกตั้ง หรือการรวบเสียงจัดตั้งรัฐบาลที่ส่อจะมีปัญหาหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า เงื่อนไขที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะบทเฉพาะกาล เริ่มจะเป็นปัญหาให้เห็น ที่เป็นรูปธรรมที่สุด คือ 2 ขั้วที่แข่งกันจัดตั้งรัฐบาล โดยขั้วหนึ่งถ้ารวมเสียงข้างมากในสภาฯ ได้อาจไม่มีเสียงพอที่จะเป็นนายกฯ ได้ แต่อีกขั้วหนึ่งถ้าเป็นนายกฯ ได้ตามรัฐธรรมนูญบทเฉพาะกาล ก็ยังมีคำถามว่าสุดท้ายจะเป็นรัฐบาลที่มีเสียงข้างมากในสภาฯ หรือไม่ ล้วนเป็นผลจากรัฐธรรมนูญ แต่ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร จะต้องรอผลการเลือกตั้งให้นิ่งก่อน
เมื่อถามต่อว่าสภาพที่เป็นอยู่คือ ทั้ง 2 ขั้ว ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็มีเสียงปริ่มน้ำ เป็นผลจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มุ่งเน้นแก้กรณีรัฐบาลมีเสถียรภาพมากเกินไป รวมถึงรูปแบบการเลือกตั้งใช้ใบเดียว การออกแบบกติกาเช่นนี้ ถือเป็นคำตอบของประเทศ หรือเป็นระเบิดเวลามากกว่า นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนเคยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ตอนที่มีการร่างรัฐธรรมนูญ เข้าใจว่าผู้ร่างรัฐธรรมนูญก็คงคาดไม่ถึงว่าสุดท้ายผลจะออกมาเป็นอย่างนี้ แต่เดิมอาจคิดว่าจะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งที่มีเสียงข้างมากเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ อาทิ การกำหนดให้ประธานสภาต้องอยู่ฝ่ายรัฐบาล กำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาโหวตเลือกนายกฯ ได้ และออกแบบรูปแบบการเลือกตั้งให้เป็นบัตรใบเดียว เพราะคาดหวังว่าผลการเลือกตั้งจะเป็นเบี้ยหัวแตกและสามารถที่จะทำให้การรวมเสียงตั้งรัฐบาลทำได้ง่าย แต่เอาเข้าจริง มันเป็นผลตรงกันข้าม และเกิดภาวะการแข่งขันของ 2 ขั้วทางการเมืองที่ปริ่มน้ำ ทั้งนี้ ตนไม่อยากเรียกร้องใครให้แสดงความรับผิดชอบ เพราะไม่อยากขยายประเด็นปัญหาให้เพิ่มขึ้น แต่คงจะเป็นบทเรียนให้กับคนร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ได้.