"อดีตกรธ."ค้านรัฐบาลแห่งชาติ - ยังไร้เงื่อนไขแม้ไม่ขัด รธน.
การเมือง

"250 ส.ว.แต่งตั้งที่มีอำนาจโหวตนายกรัฐมนตรีร่วมกับส.ส.จึงไม่ได้มีที่มาจากกรธ.และไม่ได้มีไว้เพื่อดับไฟการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาลที่แต่ละฝ่ายมีคะแนนปริ่มน้ำที่ 250 เสียง ซึ่งสาเหตุก็ไม่ได้เกิดจากระบบเลือกตั้งในรัฐธรรมนูญแต่เกิดจากพฤติกรรมของคนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป คนกลุ่มใหญ่ที่ผ่านความขัดแย้งมา 10 กว่าปี ก็จะเลือกพรรคการเมืองใหญ่ คนรุ่นใหม่กว่า 8 ล้านเสียง ก็จะเลือกอีกพรรคการเมืองหนึ่ง ที่ไม่เกี่ยวกับความขัดแย้งทางการเมืองเรื่องสีเสื้อ ประกอบกับพรรคขนาดกลางในระดับจังหวัด อย่างบุรีรัมย์ ชลบุรี และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้รับความนิยมไปในแต่ละภูมิภาค ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นที่ออกมา จึงพบจำนวนส.ส.จึงขยายไปยังหลายพรรค โดยไม่ได้เกิดจากกติกา ส่วนตัวมองว่า ถ้าเป็นแบบบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เสียงของส.ส.จะยิ่งกระจายไปหลายพรรคมากกว่านี้อีก ขนาดบัตรเลือกตั้งใบเดียวที่กำหนดให้เลือกเพียงอย่างเดียวเสียงยังปริ่มขนาดนี้ ถ้าบัตร2ใบเชื่อว่าดูไม่จืดแน่นอน" นายชาติชาย กล่าว
นายชาติชาย กล่าวว่า เมื่อผลการเลือกตั้งเบื้องต้นออกมาแบบนี้ จึงมีการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองกันทันที พรรคเพื่อไทยที่ใช้ยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันเป็นแบงก์ร้อยก็จะตีโพยตีพายไม่ได้ จึงต้องชิงการนำด้วยการคิดสูตรจำนวนส.ส.ก่อน โดยการคำนวณไม่นำพรรคเล็กที่ได้ไม่ถึง 7.1 หมื่นเสียงมาคิด จนทำให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ลังเล จึงส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ ซึ่งสูตรการคิดนี้ศาลอาจไม่รู้ก็ได้ เนื่องจากการคิดเป็นอำนาจหน้าที่ของกกต.โดยตรง ส่วนสูตรการคิดนั้น กรธ.ก็ยืนยันชัดเจนว่า ต้องนำทุกคะแนนเสียงของทุกพรรคไม่ว่าใหญ่หรือเล็กที่ส่งส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมาคิดด้วย หากจะยึดแค่ 7.1หมื่นเสียง เป็นหลักถึงได้ 1 ส.ส. แล้วถามว่าตอนคำนวณที่ต้องมีการปัดเศษส.ส.บัญชีรายชื่อ ไปให้พรรคที่ได้คะแนนถึง 7.1 หมื่นอย่างเดียว แต่เศษทศนิยมของพรรคนั้นน้อยกว่าพรรคเล็กจะตอบอย่างไร
เมื่อถามถึง ข้อเสนอรัฐบาลแห่งชาตินั้น นายชาติชาย กล่าวว่า เป็นไปได้ยากมากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย เพราะตามหลักการแล้ว ในระบอบประชาธิปไตยต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุล ระหว่างฝ่ายค้านกับรัฐบาลคอยทำหน้าที่นี้อยู่ในสภา แต่รัฐบาลแห่งชาติก็ไม่ได้ขัดรัฐธรรมนูญ ซึ่งไม่ได้มีเนื้อหาล็อกไว้ว่า ต้องมีผู้นำฝ่ายค้าน เป็นแต่เพียงการกำหนดไว้ว่า พรรคที่มีเสียงข้างมากที่ไม่ได้จัดตั้งรัฐบาลให้มีผู้นำฝ่ายค้าน การที่รัฐบาลแห่งชาติจะเกิดขึ้นได้นั้น ต้องมีวิกฤตทางการเมืองที่ร้ายแรงและจำเป็นเร่งด่วนจริงๆ เช่น ภาวะสงคราม ซึ่งต้องใช้การระดมสมองจากทุกพรรคในสภาแบบนี้เป็นต้นจึงจะเกิดขึ้นได้ แต่ด้วยเงื่อนไขทางการเมืองตอนนี้ยังไม่มีเหตุและความจำเป็นในการตั้งรัฐบาลแห่งชาติแต่อย่างใด
"สำหรับกรณีที่มองว่า บทเฉพาะกาลมาตรา 272 วรรคสอง ที่กำหนดให้ สมาชิกรัฐสภาทั้งส.ส.และส.ว.รวมกัน 2 ใน 3 หรือ 500 คนจาก 750 คน มีมติงดเว้นการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามบัญชีของมาตรา 88 คือรัฐบาลแห่งชาตินั้นก็ไม่ใช่ ซึ่งมาตราดังกล่าวเป็นเพียงทางออกหนึ่ง เพื่อไม่ให้การเมืองเกิดทางตันในการจัดตั้งรัฐบาลเท่านั้น"นายชาติชาย กล่าว.