จวก"ชูวิทย์"ใส่ร้าย"ปชป."ไม่เข้าใจหลักเสรีภาพการแสดงความเห็น
การเมือง
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นคนรุ่นใหม่นั้น พรรคให้ความสำคัญและส่งเสริมมานานแล้ว เรียกว่ายุวประชาธิปัตย์ ปัจจุบันเป็น "นิวเดม”(New Dem)" มีคนรุ่นใหม่ได้รับคัดเลือกให้ลงสมัครส.ส.แบบเขตและบัญชีรายชื่อจำนวนไม่น้อย อีกทั้งในการประชุมใหญ่เมื่อเดือน พ.ย.2561 ได้เลือกคนรุ่นใหม่หลายคนเป็นคณะกรรมการบริหารพรรค และตนเชื่อว่าในการประชุมใหญ่พรรคเดือนพ.ค.เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ คงมีคนรุ่นใหม่สมัครและจะได้รับเลือกเพื่อช่วยบริหารพรรคหลายคน
นายอลงกรณ์ กล่าว่า สำหรับการจะร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ขึ้นกับการตัดสินใจของที่ประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมการบริหารพรรคกับส.ส.ซึ่งสมาชิกต้องเคารพมติพรรค และตนเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา เพราะแต่ละคนที่เป็นแกนนำต่างยืนยันที่จะยอมรับมติพรรค ส่วนประเด็นที่นายชูวิทย์บอกว่ามีการทะเลาะกันในพรรค เล่นกันถึงตาย แต่บอกว่าเป็นแค่ความคิดเห็นที่แตกต่าง ทั้งที่พวกไม่สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้ลงสมัครส.ส.บ้าง หรือบางคนได้ลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับท้ายๆ นั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงที่ว่าปัญหาการแข่งขันภายในพรรค ทำให้มีอดีตส.ส. 2-3 คนในทีมที่แข่งขันกับนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ลงสมัครส.ส.ระบบเขต โดยไปลงบัญชีรายชื่อแทน แต่เมื่อเทียบกับจำนวนผู้สมัครส.ส.เขต 350 คน ถือว่ามีปัญหาน้อยมาก ดังนั้นคำว่า “เล่นกันถึงตาย”จึงดูรุนแรงเกินไป ขณะเดียวกันมีผู้สนับสนุนนายอภิสิทธิ์ถูกจัดไปอยู่ในระบบส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับ ตั้งแต่ 25 เป็นต้นไปเช่นกัน
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ทุกคนที่เสนอว่าจะร่วมรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน หรือเสนอเรื่องรัฐบาลแห่งชาติ เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวกับพรรค โดยทั้งหมดยินดีจะปฏิบัติตามมติพรรค นายชูวิทย์จึงควรแยกแยะให้ได้ระหว่างความเห็นของสมาชิกกับความเห็นของพรรค และขณะนี้พรรคยังไม่มีมติในเรื่องนี้จนกว่าจะมีการรับรองผลการเลือกตั้งภายในวันที่ 9 พ.ค.นี้ การที่นายชูวิทย์สรุปว่าพรรคประชาธิปัตย์ทะเลาะกันเรื่องการจะไปร่วมรัฐบาลมากที่สุด จึงเป็นข้อสรุปที่ไม่เป็นธรรมกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นอย่างยิ่ง และจากการประชุมภายในของพรรคหลายครั้งทำให้ตนให้ความมั่นใจได้ว่าการพ่ายแพ้ของพรรคเป็นบทเรียนที่ทุกคนในพรรคประชาธิปัตย์เห็นตรงกันว่าจะต้องปฏิรูปพรรคอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไม่ว่าใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่.