ข่าว"เดชา"ได้เป็นหมอพื้นบ้านแล้ว! แจกน้ำมันกัญชาสิ้นเม.ย.นี้ - kachon.com

"เดชา"ได้เป็นหมอพื้นบ้านแล้ว! แจกน้ำมันกัญชาสิ้นเม.ย.นี้
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 17 เม.ย.น.พ.มรุต จิรเศรษฐสิริ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวภายหลังหารือกับนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิขวัญข้าว นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันการแพทย์บูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี นางรสนา โตสิตระกูล ตัวแทนมูลนิธิสุขภาพไทย ว่า การใช้กัญชาในตำรับยาปัจจุบันและทางการแพทย์ ซี่งต้องคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยเป็นหลัก รวมถึงประโยชน์เกิดกับคนไทยและคนทั้งโลก ดังนั้นทุกขบวนการอยู่บนความร่วมมือหน่วยงานทุกภาคส่วน เพื่อให้มีขบวนการทำงานสะดวกขึ้น สำหรับกรณีอ.เดชา เมื่อได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแพทย์พื้นบ้าน โดยตนมอบหมายให้สาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นผู้พิจารณาที่ถูกต้องตรงคุณสมบัติของแพทย์พื้นบ้าน 8 ข้อ คณะกรรมการพิจารณาใบอนุญาตแพทย์พื้นบ้าน ภายใน1-2 สัปดาห์ในการขึ้นทะเบียน แล้วต่อจากนั้นเข้าขั้นตอนการวิจัยน้ำมันกัญชา มีเชื่อจุรินทรีย์ แบคทีเรีย ยาฆ่าแมลง โลหะหนัก สารปนเปื้อนอื่นๆว่าปลอดภัยหรือไม่ พร้อมกับมีหน่วยงานไปอบรมเพื่อให้มูลนิธิฯดูแลติดตามอาการโรคได้ จะให้พระแจกน้ำมันกัญชาคงไม่ได้ โดยขั้นตอนทั้งหมดให้เร็วที่สุดภายใน2-3 สัปดาห์นี้ เพราะทราบว่ามีคนป่วยรอน้ำมันสกัดกัญชา อยู่จำนวนมาก จะสามารถแจกของเดิมต่อไปโดยแจกฟรีไปก่อน ส่วนปัญหาของใต้ดินมีขายราคาแพงๆ ต้องดำเนินการทางกฏหมายจับกุมอย่างเข้มงวด

“เกณฑ์คุณสมบัติของการเป็นแพทย์พื้นบ้าน คือ 1.ให้บริการเสมอเสมอต่อเนื่องไม่น้อยกว่า10ปี  2.สืบทอดจากบรรพบุรุษหรือองค์ความรู้ท้องถิ่น 3.มีความสามารถบำบัดรักษาโรค 4.ไม่หวงวิชา มีการถ่ายทอดความรู้ 5.ไม่เรียกร้องค่ารักษามากเกินควร ซึ่งของ อ.เดชา ให้ฟรีมาตลอด 6.เป็นที่รู้จักนับถือไดรับการยอมรับในชุมชน 7.ชาวบ้านในพื้นที่ได้เซ็นรับรอง 8.มีคุณธรรม มีเมตตา ให้ความช่วยเหลือประชาชน และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามพรบ.รักษาโรค ซึ่งอ.เดชา มีคุณสมบัติครบตามนี้ สามารถให้การรับรองขึ้นทะเบียนแพทย์พื้นบ้านได้ โดยอ.เดชา และคณะ ได้ใช้กัญชาเป็นประโยชน์รักษาผู้ป่วยมาระยะหนึ่งแล้วการที่จะดำเนินการได้อย่างไร ต้องดูตามเกณฑ์เพราะอ.เดชา มีส่วนดูแลผู้ป่วย อยู่บริเวณรอบๆที่ปลูก และเห็นว่ารักษาคนไข้ จากใช้สมุนไพรอื่นๆมานานแล้ว กรมจึงส่งเข้าพิจารณา มอบอำนาจให้สธ.สุพรรณบุรี”น.พ.มรุต กล่าว

ทั้งนี้การดูแลผู้ใช้น้ำมันกัญชา จะต้องคุ้มคอรงผู้บริโภคด้วย ซึ่งต้องนำมาทดสอบว่า ไม่มีจุลินทรีย์ แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา ไม่มียาฆ่าแมลงตกค้าง ไม่มีโลหะหนัก พร้อมกับติดตามเมื่อรับไป ใช้ได้ผลอย่างไร โดยกระบวนหาผลทดลองในกฏหมาย เปิดช่องเอา ไว้ ทำโครงการทดลองในการใช้น้ำมันกัญชาได้ แต่ยังเป็นไม่ได้รับการรับรอง ผู้ป่วยที่จะมาใช้ และหมอ ต้องรับผิดชอบ จดบันทึกไว้ให้ชัดเจน โดยวันพรุ่งนี้ (18 เม.ย.)จะพูดคุยในคณะทำงานชุดใหญ่ มีการแถลงข่าวอีกครั้งที่คณะเภสัชศาสตร์ ม.จุฬาลงกรณ์ฯ”อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯกล่าว

นายเดชา กล่าวว่า ตนได้ทำมาตั้งแต่ปี2556 พร้อมได้ทำพืชสมุนไพรตัวอื่น เช่น รางจืด ตั้งแต่ปี 2550 ปัญหาของตนที่ทำ กัญชา ได้ทำส่วนตัวไม่เกี่ยวกับมูลนิธิฯเพราะตนกลัวเป็นมะเร็งเหมือนแม่ ไม่มีทางเลือกในการรักษา จึงยอมผิดกฏหมาย เมื่อได้ผลดีจึงทำมาให้พระแจก เชื่อว่ากฏหมายจะเปลี่ยนได้ แม้แต่สหรัฐอเมริกา ผิดกฏหมายมาก่อน ยังเลิกได้ เราต้องทำให้คนส่วนใหญ่เห็นประโยชน์ เพื่อให้กฏหมายเปลี่ยน

“ตอนนี้ห่วงคนไข้5พันกว่าราย ผมห่วงเขาที่สุดเพราะขาดยา รอทุกวันน่าเห็นใจมาก คาดว่าสิ้นเดือนนี้น่าจะแจกได้ไม่ผิดกฏหมาย เพราะทำเป็นหมอพื้นบ้าน และ ไปร่วมมือกับหน่วยงานรัฐ สถาบันการศึกษา เอาคนไข้เป็นผู้ร่วมวิจัย เพราะตัวยายังไม่พิสูจน์ เข้ากระบวนการวิจัย พรุ่งนี้ ร่วมมือหลายสถาบัน ปฏิบัติการตรงๆ กับคนไข้ ทำให้ถูกต้อง แจกได้ตามกฏหมายไม่ต้องหลบๆซ่อนๆ นี่คือจุดเริ่มต้น เราทำให้กฏหมายปรับให้ที่ดี ดูแลส่งเสริมสิ่งที่ดีมากที่สุด ไม่กำหนดจำกัดอยู่ในมือฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง ถ้าห่วงมากเกินไป ว่าไม่ปลอดภัย ซึ่งก็จะไม่ได้ใช้ประโยชน์ ควรดูแลให้เกิดใช้ประโยชนทั่วถึง โดยนายกรัฐมนตรี สั่งมาแล้ว การันตีคนไข้ได้รับยาถูกกฏหมาย ไม่เถื่อนๆแบบเดิม รับรองความปลอดภัยโดยขั้นตอนทางวิทยาศาสตร์ ระยะยาวผลักดันกฏหมายให้กัญชาออกจากสาเสพติดต่อไป”นายเดชา กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเนวิน ชิดชอบ จัดงานวันกัญชาโลก เพื่อโปรโมต พันธุ์กัญชาบุรีรัมย์ มีสารใช้รักษาโรคที่ดีที่สุดในไทย ทางมูลนิธิฯเคยนำมาสกัดหรือไม่ และจะเชิญมาร่วมวิจัยด้วยไหม นายเดชา กล่าวว่า”ผมไม่รู้ ไม่เคยนำมาใช้ และไม่ทราบว่าพันธุ์ไหน อย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องของนักการเมือง ไม่ขอออกความเห็น”

ด้านนายปานเทพ กล่าวว่าการแจกน้ำมันกัญชา ตอนนี้ยังผิดกฏหมาย เป้าหมายวันนี้ให้ อ.เดชา ในสถานะภาพ หมอพื้นบ้าน ซึ่งคุณสมบัติ8ข้อ นายเดชา ผ่านเกณฑ์ และดำเนินการผ่านเรื่องรูปแบบการวิจัยร่วมกับ ม.รังสิต ม.ขอนแก่น ม.จุฬาฯ โดยอ.เดชา เป็นผู้วิจัย  รวมทั้งในปริมาณสารสกัดน้ำมันกัญชา 3% ที่แจกให้คนไข้ สอดคล้องแผนแพทย์ของไทย คือ ไม่เมา และใช้ปริมาณไม่มากเกิน เน้นความสมดุลของร่างกายทั้งกายและจิตใจ มีความปลอดภัย เหลือเพียง น้ำมันกัญชา ที่ควรตรวจสอบ ว่ามียาฆ่าแมลง โลหะหนัก สิ่งปนเปื้อน อื่น ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึง ซึ่งวันพรุ่งนี้ ประชุม 10องค์กร แบ่งงานกันและร่วมมือกันได้ เข้าสู่งานวิจัย ผ่านคณะกรรมการจริยธรรม เพราะเป็นการวิจัยในมนุษย์ซี่งต้องแจกให้สิทธิผู้ป่วยไม่ขาดตอน พรุ่งนี้หารืออีกครั้ง คาดว่ารู้ผลเร็วขึ้น”นายปานเทพ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงของกลาง ที่ป.ป.ส. จับยึดกัญชามานำวิจัย ได้หรือไม่  อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยฯกล่าวว่ากรมการแพทย์ฯ ทำหนังสือขอใช้ประโยชน์ จากของกลางไปจับมา มาตรวจว่ามีจุลชีพ มียาฆ่าแมลงก่อน ค่อยนำมาทดลองปรุงยา รวมทั้งเป็นกัญชาแห้ง ร่วมขบวนการวิจัยด้วยกัน

นายเดชา กล่าวว่าการสกัดน้ำมันกัญชา ใช้วัถตุดิบดอกกัญชาแห้งๆ ตอนก่อนอาจซื้อจากใต้ดินบ้าง แต่ตอนนี้ตนหมดปัญหา เพราะป.ป.ส.มีของกลางเยอะเป็น 100ตัน มีหลายเกรด จะนำแยกประเภท ที่เป็นยา ก็คัดเลือกคุณภาพปลอดภัยมามอบให้เราทำยา การสกัดน้ำมันไม่เกินวันสองวันก็เสร็จ แต่อาจเพิ่มเป็น1สัปดาห์ ในการตรวจ ความปลอดภัย

“ที่ผ่านมาคนไข้มารับน้ำมันสกัดกัญชาเป็นประจำเกิน5พันราย ซึ่งโรคตา ยืนยันหายทุกโรค แจกเป็นพันๆคน โรคไมเกรน ชัดเจนหายขาดทุกราย ทุกอย่างผ่านการทดลองจากคนมา ไม่มีปัญหา ไม่เมา เน้นนอนหลับสบาย ซี่งไม่ใช้ยาช่วงกลางวันไม่ไปรบกวนทำงาน”นายเดชา กล่าว.