ข่าวชี้ทุกฝ่ายต้องยึดระบบรัฐสภา ซัดคิดแผลงๆให้ส.ว.โหวตงบฯ - kachon.com

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ห้องประชุมชั้น 3 อาคาร 100 ปี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช พรรคประชาธิปัตย์  

ทั้งนี้  นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวก่อนการประชุม ว่า  จะหารือถึงการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีในวันที่ 24 เม.ย.นี้ รวมถึงการหารือเรื่องการเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ และข้อเสนอที่เกี่ยวกับการปฏิรูปพรรคบางส่วน เช่น การจัดตั้งสำนักงานวิจัยและพัฒนานโยบาย สำนักงานพัฒนาสาขาและสมาชิก เป็นต้น โดยมีแนวโน้มที่จะเสนอให้ตั้งคณะกรรมการจัดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคขึ้นมา 1 คณะ เพื่อดูแลรับผิดชอบการเลือกหัวหน้าพรรค โดยข้อบังคับพรรคระบุไว้ชัดเจนว่าต้องคำนึงถึงการหยั่งเสียงซึ่งมีระบบไพรมารีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อาจใช้วิการแตกต่างจากครั้งที่แล้ว เพราะมีข้อจำกัดเรื่องเวลาและสถานการณ์บ้านเมือง ซึ่งอาจทำแบบย่อส่วนคือการใช้สื่อโซเชียลเข้ามาช่วย โดยเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารที่ต้องพิจารณาว่าจะมีกรรมการการเลือกตั้งของพรรคเข้ามาดูแลเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่ ซึ่งถ้ามี ต้องเป็นหน้าที่กกต.พรรคจัดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่ต้องกำหนดวันรับสมัครและคุณสมบัติของหัวหน้าพรรค  สำหรับการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะมีขึ้นภายใน 7 วัน หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. ในวันที่ 9 พ.ค.นี้ เพราะมีภารกิจที่จะต้องรับรองส.ส. และประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาจุดยืนพรรคว่าจะร่วมรัฐบาลหรือไม่

นายอลงกรณ์ ยังกล่าวถึงความเห็นที่แตกต่างกันของสมาชิกพรรคว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ว่า  เป็นแนวคิดส่วนตัวของแต่ละคน ตนยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีขั้วเดียว ต้องไม่มีงูเห่าโดยเด็ดขาด เมื่อมีมติพรรคออกมาอย่างไรทุกคนต้องปฏิบัติตามมติพรรค  มิฉะนั้นจะถูกคณะกรรมการจริยธรรมดำเนินการเรื่องวินัยพรรคหรือตัดสินภาคทัณฑ์ แม้ในรัฐธรรมนูญจะให้เอกสิทธิ์ส.ส.ในการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีโดยอิสระ แต่ข้อบังคับพรรคเขียนไว้ชัดว่าต้องเคารพมติพรรค

เมื่อถามถึงแนวคิดของนายไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป ที่เสนอให้ใช้รัฐธรรมนูญ มาตรา 270 ให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) มาลงมติร่วมกับสภาผู้แทนราษฎรในการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี  นายอลงกรณ์ กล่าวว่า  คิดแผลงๆกันตลอดเวลา ถ้าทุกคนยึดมั่นในระบบรัฐสภา ประเทศก็เดินหน้าไปได้ แพ้เลือกตั้งก็คือแพ้ ประชาชนเลือกก็คือเลือก ต้องเลิกแบ่งขั้วกันได้แล้ว ประชาชนเลือกใครมากกว่าก็ให้จัดตั้งรัฐบาล บริหารราชการแผ่นดิน ดีก็อยู่ได้ ทำไม่ดีก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ตนจึงอยากให้เพลาๆกันในการเสนอความคิดที่แหวกแนวระบบรัฐสภา เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และไม่เป็นผลดีต่อการเมืองในอนาคต รวมถึงขออย่าใช้วิชามารใดๆ ทั้งงูเห่า และทุกวิธีที่จะทำให้ประชาธิปไตยกลับสู่วงจรอุบาทว์อีก.