ข่าว'กกต.'ปัดดองสอบหุ้น'ธนาธร' ยันต้องรวบรวมหลักฐานอยู่ - kachon.com

'กกต.'ปัดดองสอบหุ้น'ธนาธร' ยันต้องรวบรวมหลักฐานอยู่
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s

เมื่อวันที่ 18 เม.ย. ศูนย์ปฏิบัติการด้านการข่าว สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)​ เผยแพร่เอกสารชี้แจง 3 กรณี 1.ชี้แจงกรณีข่าวขอให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากพบความไม่ชอบมาพากลในการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง อย่างน้อย 12 หน่วย โดยมีภาพประกอบที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าวนั้น สำนักงาน กกต.ชี้แจงว่า กรณีดังกล่าว นายฉัตรชัย ณ บางช้าง สมาชิกพรรคเพื่อไทยในฐานะตัวแทน นางนันทวัน ประสพดี ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดสมุทรปราการ ได้ยื่นเรื่องร้องคัดค้านที่สำนักงาน กกต.สมุทรปราการไว้ และยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ สำนักงาน กกต.แล้ว ซึ่งขณะนี้สำนักงานกกต.ได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อคณะกรรมการ กกต.ให้เป็นผู้วินิจฉัยและสั่งการต่อไป

2. ชี้แจงกรณีข่าว กกต.ดำเนินการตรวจสอบ การถือครองหุ้นของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ มีดำเนินการด้วยความล่าช้า และกล่าวหาว่ามีการดองเรื่องนั้น สำนักงาน กกต. ขอชี้แจงว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ดำเนินการตรวจสอบสืบสวนหรือไต่สวน สอบหาข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง สำนักงานกกต. ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทำการชี้แจงแสดงพยานหลักฐานเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ โดยในขณะนี้สำนักงานกกต. ได้รวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพื่อสั่งให้คณะกรรมการสืบสวนหรือไต่สวนดำเนินการตามระเบียบอำนาจหน้าที่ อย่างไรก็ตามสำนักงานกกต. ขอชี้แจงว่าจะดำเนินการตรวจสอบการถือครองหุ้นของนายธนาธร ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
         
3. กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ให้สัมภาษณ์ กกต.ใช้อำนาจออกประกาศ เรื่อง จำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดพึงมีนั้น มีการใช้จำนวนราษฎร ซึ่งไม่ได้มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณหาจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี ซึ่งอาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนั้น สำนักงาน กกต.ชี้แจงว่าการคำนวณหาจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งที่แต่ละจังหวัดจะพึงมีนั้น สำนักงานกกต.ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรา 86 ของรัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้จํานวนราษฎรทั้งประเทศตามหลักฐานการทะเบียนราษฎรที่ประกาศในปีสุดท้ายก่อนปีที่มีการเลือกตั้ง เฉลี่ยด้วยจํานวน ส.ส. 350 คน จํานวนที่ได้รับให้ถือว่า เป็นจํานวนราษฎรต่อส.ส.หนึ่งคน อย่างเคร่งครัด โดยกฎหมายไม่ได้บัญญัติให้นำหลักเกณฑ์ตามที่นายเรืองไกรกล่าวอ้างตามที่ปรากฎเป็นข่าวแต่อย่างใด.