2ฮีโร่ถ้ำหลวงเข้ารับพระราชทานเครื่องราชฯ
การเมือง
สำหรับการเยือนไทยของบุคคลทั้งสองในครั้งนี้เป็นการเยือนไทยครั้งแรกภายหลังภารกิจกู้ภัยดังกล่าวเสร็จสิ้นไปแล้วไปนานเกือบ 1 ปี และเป็นโอกาสในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระดับประชาชนระหว่างไทยกับออสเตรเลียให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นต่อไป
ทั้งนี้ นสพ.ชาลเลน ให้สัมภาษณ์ว่า ตนรู้สึกตื่นเต้นที่ได้กลับมาประเทศไทยอีกครั้ง สำหรับเหตุการณ์การช่วยเหลือเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมี ในตอนนั้น ตนคิดว่าคงมีแค่สื่อมวลชนบางส่วนที่ให้ความสนใจเท่านั้น แต่ก็พบว่าได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชนจำนวนมากให้ความสนใจ ซึ่งตนก็รู้สึกประทับใจกับเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน
ขณะที่ นพ.แฮร์ริส กล่าวว่า การเข้าไปช่วยเหลือเยาวชนกลุ่มดังกล่าวในครั้งนั้นถือเป็นประสบการณ์ที่ดี สำหรับการมาเมืองไทยในครั้งนี้ ตนและนสพ.ชาลเลน จะเดินทางไปยัง จ.เชียงราย โดยจะได้พบปะพูดคุยกับเยาวชนทั้ง 13 คนด้วย ที่จริงแล้ว เยาวชนกลุ่มนี้ถือเป็นผู้ประสบโชคร้ายในครั้งนั้น แต่ในปัจจุบัน พวกเขาควรจะมีความสุขในการใช้ชีวิตของตัวเอง ขณะเดียวกันไม่ควรจะมีใครที่มาวิพากษ์วิจารณ์หรือตำหนิอะไรต่อเยาวชนกลุ่มนี้อีก
เมื่อถามว่าหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะที่มีผู้ติดอยู่ในถ้ำเช่นนี้อีก ทั้งสองพร้อมที่จะกลับมาให้ความช่วยเหลืออีกหรือไม่ นพ.แฮร์ริส กล่าวว่า พวกเราพร้อมที่จะมาช่วยเหลือหรือเข้าร่วมสำหรับครั้งต่อไปอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก
ด้าน รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การให้สิทธิการท่องเที่ยวในประเทศไทยแก่นพ.ริชาร์ด แฮร์ริส และ นสพ.เครก ชาลเลน ถือเป็นการขอบคุณในฐานะที่ทั้งสองเป็นผู้ร่วมช่วยเหลือเยาวชนของไทย ซึ่งเป็นการให้สิทธิเดียวกันแก่บุคคลอื่นที่ร่วมปฏิบัติการดังกล่าวไปแล้ว
จากนั้น ในเวลา 14.00 น. นพ.ริชาร์ด แฮร์ริส และ นสพ.เครก ชาลเลน จะเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรับมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ กรณีช่วยเหลือผู้ประสบภัยในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.แฮร์ริส และ นสพ.ชาลเลน จะเดินทางไปที่จ.เชียงราย ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ โดยจะพบกับเยาวชนทีมหมูป่าอะคาเดมีเป็นการส่วนตัว และจะไปเยี่ยมชมถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เวลา 12.00 น. นอกจากนี้ ทั้งสองยังมีกำหนดการที่จะเดินทางไป จ.กาญจนบุรีและภูเก็ต เพื่อท่องเที่ยวและเข้าร่วมกิจกรรมของสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยต่อไป.