ข่าว"ปู"เสียวต่อ!ป.ป.ช.สอบอีกกู้เงินเกินเวลา-ทีโออาร์เอื้อเอกชน - kachon.com

"ปู"เสียวต่อ!ป.ป.ช.สอบอีกกู้เงินเกินเวลา-ทีโออาร์เอื้อเอกชน
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. นายวรวิทย์  สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหากับคณะรัฐมนตรีทั้งคณะกรณีลงมติเห็นชอบ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 โดยมิชอบ ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไปนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนว่า เรื่องกล่าวหาดังกล่าวเป็นกรณีกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ว่ากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา ร่วมกันลงมติและเห็นชอบในการออก พ.ร.ก.กู้เงินฯ อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 169 ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน โดยในการประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2559  ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยอาศัยคำวินิจฉัย ของศาลรัฐธรรมนูญ คำวินิจฉัยที่ 5-7/2555 ลงวันที่ 22 ก.พ.2555 ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่าการตรา พ.ร.ก.กู้เงินฯ เป็นกรณีเพื่อประโยชน์ในอันที่จะรักษาความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศและป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง และการตรา พ.ร.ก.ดังกล่าว เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 184 วรรคสอง ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าการตรา พ.ร.ก.กู้เงินฯ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 184 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่ปรากฏว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวก ได้ร่วมกันตราและเห็นชอบ พ.ร.ก.ดังกล่าวโดยไม่สุจริต หรือใช้ดุลพินิจบิดเบือนหลักการของรัฐธรรมนูญ เรื่องกล่าวหาดังกล่าวไม่ปรากฏข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพียงพอที่จะรับฟังได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์กับพวกได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา จึงให้ข้อกล่าวหาตกไป

นายวรวิทย์ กล่าวว่า สำหรับประเด็นเรื่องกล่าวหาการกู้เงินเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ประเด็นการดำเนินโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ ขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 57 วรรคสอง มาตรา 67 วรรคสอง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103/7 และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 และประเด็นการกำหนดรายละเอียดขอบเขตของงาน (TOR) ในโครงการดังกล่าว มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนบางรายคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริงปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง.