เมื่อวันที่ 19 เม.ย.นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวชี้แจงกรณีข่าวพบไม้สักถูกตัดกว่า140ท่อนในพื้นที่ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.แพร่ ว่าพื้นที่ขออนุญาตโครงการก่อสร้าง
อ่างเก็บน้ำแม่แคมฯ ตั้งอยู่ที่บ้านแม่แคม หมู่ที่ 7 ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ อยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แคม โดยกรมชลประทานได้ทำการขออนุญาตใช้ประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แคม เนื้อที่กว่า 580 ไร่ และได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ให้เข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2555 ปัจจุบันโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคมฯอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ในส่วนการตรวจพบไม้สักกว่า 140 ท่อน ในพื้นที่ก่อสร้าง ขอเรียนข้อเท็จจริงว่า ในขณะที่สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 กรมชลประทาน เริ่มเข้าไปดำเนินการถางป่า เพื่อปรับพื้นที่บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่แคม อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้พบไม้สักซึ่งเป็นไม้หวงห้ามถูกตัดโค่นแล้วโดยเลื่อยโซ่ยนต์
ล้มลงกระจัดกระจายเป็นบริเวณกว้าง ไม้บางส่วนถูกตัดเป็นท่อนกองรวมหมอนไว้ในลักษณะเตรียมขนย้ายออกจากพื้นที่ จึงดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 สาขาแพร่ กรมป่าไม้ พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง
รวม 11 ฝ่าย ร่วมกันทำการตรวจสอบและตรวจยึดไม้สักท่อน จำนวน 100 ท่อน ปริมาตร 14.27 ลูกบาศก์เมตร คิดมูลค่าเสียหายของรัฐรวมเป็นเงิน 856,200 บาท จากการตรวจสอบไม้ดังกล่าวไม่พบตราประทับของหน่วยงานรัฐและเอกชนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงได้จัดทำเรื่องราวร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพระธาตุช่อแฮ
เพื่อสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมาย

ทั้งนี้นับจากสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 กรมชลประทาน ได้เข้าไปดำเนินการก่อสร้างโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมฯได้มีการจัดเวรยาม เพื่อเฝ้าระวัง และดูแลความปลอดภัย ในพื้นที่โครงการ.