ข่าวทร.จ่อแจกหลายข้อหาผัว-เมียสร้างบ้านลอยน้ำ - kachon.com

ทร.จ่อแจกหลายข้อหาผัว-เมียสร้างบ้านลอยน้ำ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 19 เม.ย. พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเขต 3 (ศร.ชล.เขต 3) กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการทางกฎหมายกับนายแชด เอลวาร์ตอฟสกี ชาวอเมริกัน และนาเดีย หรือนางสุปราณี เทพเดช ภรรยาชาวไทยเจ้าของบ้านลอยน้ำในทะเลใกล้กับจ.ภูเก็ต เพื่อหวังตั้งเขตปกครองตัวเองในทะเลว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวิชิต จ.ภูเก็ต กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งเรื่องต่ออัยการตามกระบวนการยุติธรรม เพื่อดำเนินการกับสองสามีภรรยาดังกล่าวตามพยานหลักฐานที่ปรากฏตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา ม.119 เนื่องจากพบว่ามีการเชิญชวนคนมารสร้างสิ่งปลูกสร้างเพื่ออยู่ในทะเลถือว่าเป็นการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยของชาติ อีกทั้งทางจังหวัดภูเก็ตก็จะดำเนินการขยายผลในข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย โดยศร.ชล.เขต 3 จะร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างกลางทะเล พล.ร.ท.สิทธิพร กล่าวว่า ล่าสุดสิ่งปลูกสร้างยังคงอยู่ที่เดิม โดยมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตลอดเวลา ซึ่งพบว่ายังไม่มีการดำเนินการกลับมาใช้ประโยชน์ใดๆเพิ่มเติมอีก ทั้งนี้หากคดีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้วก็จะต้องมีการรื้อและยึดสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เมื่อถามถึงกรณีที่สองสามีภรรยาร้องเรียนสื่อต่างประเทศว่าถูกทหารไทยคุกคามตามล่าจนเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิต และขอลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ พล.ร.ท.สิทธิพร กล่าวยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ และพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายปกติทุกขั้นตอน ไม่เคยข่มขู่คุกคามหรือตามล่าแต่อย่างใด อีกทั้งจนถึงขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่พบตัวสองสามีภรรยา เบื้องต้นทราบว่าสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ได้ยื่นถอนวีซ่าสามีที่เป็นคนต่างชาติเรียบร้อยแล้ว โดยหลายฝ่ายและหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันเป็นอย่างดี

เมื่อถามว่าจากกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่อื่นในทะเลอีกหรือไม่ ที่อาจจะมีการสร้างบ้านลอยน้ำแบบนี้อีก พล.ร.ท.สิทธิพร กล่าวว่า จากนี้ทางเจ้าหน้าที่ศร.ชล. และทัพเรือภาคที่ 3 จะต้องดำเนินการเฝ้าระวังและป้องกัน เพราะถือว่าเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อย่างไรก็ตามจากนี้ต้องขอร้องให้ชาวบ้านในทุกพื้นที่ช่วยกันตื่นตัว เฝ้าระวัง และร่วมมือกันป้องกันดูแลพื้นที่ของตนเองด้วย.