เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯหนุนใช้ชุดตรวจเอชไอวี
การเมือง

นายอภิวัฒน์ กล่าวอีกว่า หากเป็นเรื่องของการขออนุญาตตรวจในเด็กและวัยรุ่นก็มีการแก้ปัญหามานานแล้ว ว่าเด็กมีสิทธิที่จะตรวจได้เอง โดยไม่ต้องขออนุญาต และเมื่อตัดสินใจเข้ามาตรวจก็จะมีระบบให้คำปรึกษารองรับแล้ว แต่จะต้องปรับปรุงเรื่องของร้านยา เมื่อเด็กหรือวัยรุ่นซื้อเครื่องตรวจ ไม่ว่าจะตั้งครรภ์หรือเอชไอวี เภสัชกรน่าจะมีโอกาสให้คำปรึกษาป้องกัน อาทิ การเข้าถึงถุงยางอนามัย แทนที่ขายอุปกรณ์อย่างเดียวก็ให้คำปรึกษาไปด้วย เพื่อลดความเสี่ยงในอนาคต และให้คำแนะนำว่าผลเป็นบวกหรือลบต้องทำอย่างไร ก็จะทำให้การใช้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
"แต่ประเด็นที่กังวล คือ การนำชุดตรวจเอชไอวีด้วยตนเอง ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ อาทิ การซื้อชุดตรวจจำนวนมาก เพื่อไปบังคับตรวจก่อนเข้าทำงานหรือสมัครเรียน ซึ่งเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ และถือเป็นการบังคับ ไม่ใช่สมัครใจ ซึ่งสถานการณ์เรื่องบังคับตรวจนั้น การสมัครเรียนถือว่าดีขึ้นระดับหนึ่ง แต่เรื่องรับเข้าทำงาน หลายบริษัทเอกชนยังไม่เข้าใจ ยังใช้ระบบคลินิกเอกชน โรงพยาบาลเอกชน ให้ตรวจสุขภาพ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีเอชไอวี และส่งผลเลือดมาให้ฝ่ายบุคคล ทั้งที่กองประกอบโรคศิลปะที่ดูคลินิกเวชกรรม มีประกาศมาแล้วว่า รพ.เอกชน คลินิกเอกชน ไม่สามาารถรับจ้างตรวจเอชไอวีก่อนเข้าทำงาน และส่งผลเลือดให้บริษัทได้ เพราะละเมิดสิทธิผู้ป่วยในการเปิดเผยความลับ ซึ่งออกมาแล้ว 2 ปี แต่คลินิกยังทำอยู่เหมือนเดิม มีการร้องเรียนเป็นระยะ เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องใหญ่ บริษัทเอกชนยังไม่เข้าใจ ไม่ว่ามีหรือไม่มีเชื้อก็ทำงานได้ เพราะรักษาได้แล้ว ถือเป็นเรื่องท้าทายและต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ"นายอภิวัฒน์ กล่าว.