ข่าว"ไอติม"ชวนคนบางกะปิใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่พรุ่งนี้ - kachon.com

"ไอติม"ชวนคนบางกะปิใช้สิทธิ์เลือกตั้งใหม่พรุ่งนี้
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 13 บางกะปิ-วังทองหลาง พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม - Parit Wacharasindhu" เชิญชวนประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้ง 802 คน ในหน่วยเลือกตั้งที่ 32 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ออกมาลงคะแนนเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ โดยระบุว่า  เนื่องจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการบริหารจัดการการเลือกตั้งส.ส.ครั้งที่ผ่านมา จึงจำเป็นต้องลงคะแนนเสียงใหม่ ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ เวลา 08.00-17.00 น. ที่โรงเรียนลำสาลีราษฎร์บำรุง ถนนกรุงเทพกรีฑา  ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประชาชนจะสละเวลาออกไปใช้สิทธิอีกครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่ทุกคนยังคงมีในระบอบประชาธิปไตย โดยทุกคะแนนที่มอบให้นั้น ป็นกำลังสำคัญให้เรามีแรงตั้งใจทำงานต่อไป ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ตนยังยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการอาสาเข้ามาพัฒนาบ้านเมืองและแก้ไขปัญหาในชุมชนหรือหมู่บ้านของท่าน และรวมถึงความมุ่งมั่นของพรรคประชาธิปัตย์ ในการคิดไตร่ตรอง
และนำร่องนโยบายต่างๆเพื่อยกระดับประเทศของเรา  ถ้าท่านลงคะแนนให้ผู้สมัครและพรรคอื่นในครั้งที่แล้ว ตนขอโอกาสให้ทุกคนพิจารณาตนในการเลือกตั้งใหม่ครั้งนี้

"ผมยอมรับถึงหลายอย่างที่ผมและพรรคต้องทำให้ดีกว่าเดิม เพื่อเรียกความมั่นใจของท่านกลับคืนมา ไม่ว่าจะเป็นการแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนและเสมอต้นเสมอปลาย การแสดงความจริงใจในการรับฟังทุกเสียงของท่าน การรักษาทุกคำพูดของเรา หรือการเสนอทางออกของประเทศอย่างรวดเร็วและเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา หลายคนถูกบีบให้แบ่งฝ่ายด้วยความกลัวว่าใครจะกลับมา ด้วยความเกลียดว่าใครจะอยู่ต่อ หรือด้วยความหวังว่าอะไรใหม่ๆจะพาประเทศพ้นวิกฤติการเมือง แต่ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา หลังผลการเลือกตั้งทั่วประเทศ แสดงให้เห็นชัดว่าสังคมถูกแบ่งให้เป็น 2 ขั้ว ประเทศยังหยุดอยู่ที่เดิม เพิ่มเพียงความขัดแย้งใหม่ระหว่างช่วงอายุ"นายพริษฐ์ กล่าว

นายพริษฐ์ กล่าวอีกว่า  ตนขอคะแนนเสียงในครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อตนหรือเพื่อพรรคประชาธิปัตย์ แต่เพื่อแสดงถึงพลังของคนที่อยากเห็นสังคมไทยเดินไปข้างหน้า เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพวกเราควรมีทางเลือกที่ดีกว่าปัจจุบัน จะไม่ยอมจำนนต่อความไม่ถูกต้อง และเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าประเทศสูญเสียมากพอแล้วจากความขัดแย้งที่ยังคงมีและทวีคูณขึ้น