กษ.เผยไทยส่งออกสุกรพุ่งพรวด! หลังเพื่อนบ้านเจออหิวาต์แอฟริกา
การเมือง

นายลักษณ์กล่าวต่อว่า กระทรวงเกษตรฯจัดทำแผนเตรียมความพร้อมรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในประเทศไทย โดยคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา แบ่งดำเนินการเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1)จัดให้มีคณะกรรมการอำนวยการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรแห่งชาติ ประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคสหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์ และภาคเอกชน และ 2) แผนใช้จ่ายงบประมาณปี 2562 - 2554 ดำเนินงานเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค วงเงิน 148,542,900 บาท
นอกจากนี้ การดำเนินการตามแผนดังกล่าว ยังแบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะเร่งด่วน จะดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค และระยะยาวจะยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันโรคให้มีมาตรฐานสากล โดยจัดสร้างโรงทำลายซากสัตว์ติดเชื้อ เนื่องจากเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกรมีความคงทนในสภาพแวดล้อมสูงหากทำลายโดยการฝังต้องใช้พื้นที่มาก และการทำลายเป็นไปด้วยความยากลำบาก มีโอกาสที่เชื้อจะตกค้างและแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อม หรือหากทำลายโดยการเผาก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม จึงจำเป็นต้องกำจัดซากติดเชื้ออย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว หากกรณีไม่มีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรยังใช้กำจัดซากสัตว์ติดเชื้อของโรคระบาดอื่นได้ด้วย ถือเป็นมาตรการควบคุมโรคที่มีประสิทธิภาพยั่งยืน
“ยืนยันว่ายังไม่มีการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรในประเทศไทย แต่ถึงแม้โรคดังกล่าวไม่ติดต่อสู่คน แต่โรคนี้มีความรุนแรงก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจ กระทรวงเกษตรฯ จึงประกาศเขตเฝ้าระวังในพื้นที่จังหวัดชายแดนทั้งหมด 16 จังหวัดทั่วประเทศ และดำเนินแผนป้องกันเพื่อเป็นวาระแห่งชาติ กระทรวงเกษตรฯเชื่อมั่นว่าจะสกัดกั้นโรคนี้ไม่ให้เข้ามาสู่ประเทศไทยได้ หากประเทศไทยมีระบบป้องกันโรคระบบทำลายซากสุกรที่เป็นโรค ซากสัตว์พาหะที่ดีตามมาตรฐานสากลจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคในประเทศได้ อีกทั้งเป็นโอกาสทางธุรกิจเนื่องจากความต้องการสุกรของจีน เวียดนาม และกัมพูชาเพิ่มขึ้น จากเดิมก่อนเกิดโรคราคาสุกรมีชีวิตของไทยกิโลกรัมละ 60 บาท หลังเกิดโรคทำให้ราคาสุกรในประเทศมีราคาเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 80 บาท เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น 44,000 ล้านบาทต่อปี” นายลักษณ์ กล่าว.