ข่าวกอร.พระราชพิธีฯกำชับพกบัตรปชช.เข้าพื้นที่งานพระราชพิธีฯ - kachon.com

กอร.พระราชพิธีฯกำชับพกบัตรปชช.เข้าพื้นที่งานพระราชพิธีฯ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง ผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ แถลงภายหลังการประชุมกองอำนวยการร่วมถวายความปลอดภัย และการจราจรงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อเตรียมความพร้อมการอำนวยความสะดวกจุดจอดรถของประชาชนที่เข้าร่วมงานพระราชพิธีฯว่า กองอำนวยการร่วมฯขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันเฝ้ารับเสด็จในวันที่ 4- 6 พ.ค. ตลอดระยะทาง 7,150 เมตร ทั้งนี้ได้เตรียมสถานที่ไว้รองรับพี่น้องประชาชน และอำนวยความสะดวก ไว้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ซึ่งประชาชนที่อาศัยอยู่ในกทม. สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลไปจอดได้ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินMRTทีลาดพร้าว ,บริเวณสำนักงานศาลยุติธรรม ,สำนักงานอัยการจนถึงธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสาตร์ โดยจะมีการจัดรถชัตเติ้ลบัสของกระทรวงคมนาคม นำประชาชนเข้าสู่พื้นที่บริเวณงาน 

ซึ่งก่อนที่จะเข้าสู่พื้นที่บริเวณงาน ได้กำหนดจุดรวมพล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนรอบเส้นทางเสด็จฯ เริ่มตั้งแต่สนามม้านางเลิ้ง ,บ้านมนังคศิลา, บ้านพิษณุโลก , วัดเทพศิรินทรฯ , เชิงสะพานพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ ,เชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า,และเชิงสะพานพระราม 8 ด้านฝั่งธนบุรี ซึ่งจะมีโรงครัวพระราชทาน เพื่อให้ประชาชนรับประทานอาหารกลางวัน และดื่มน้ำให้เรียบร้อย รวมทั้งยังจัดหน่วยแพทย์พระราชทานคอยดูแลความพร้อมทางด้านสุขภาพร่างกายและให้คำแนะนำก่อนที่จะเข้ามาสู่พื้นที่รับเสด็จ อีกทั้งยังมีเต้นท์นิทรรศการ เพื่อให้ประชาชนได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณี ประวัติศาสตร์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พร้อมทั้งมีวงดนตรีจากนักเรียนโรงเรียนต่างๆคอยขับกล่อมดนตรี  พร้อมกันนี้ได้มีการจัดรถชัตเติ้ลบัสรับส่งประชาชน บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสนามกีฬาแห่งชาติให้บริการเพิ่มเติมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดด้านการจราจรในพื้นที่ชั้นในด้วย

พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ทางรัฐบาลได้เตรียมพื้นที่จอดรถรอบกทม. ไว้ 26 จุด อาทิ อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี,ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ,สนามกีฬาธูปะเตมีย์,สนามกีฬาบุญยะจินดา ,คลังสินค้าลาดกระบัง ,อีเกียและไบเทคบางนา ,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีบางมด ,บริเวณพุทธมณฑล,เซ็นทรัลศาลายาและเซ็นทรัลเวสท์เกต สามารถรองรับรถยนต์ของประชาชนได้เกือบ 40,000 คัน โดยมีรถชัตเติ้ลบัสของกระทรวงคมนาคม ไว้คอยบริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น พร้อมทั้งมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจิตอาสาดูแลยานพาหนะให้กับประชาชน โดยจะให้บริการพี่น้องประชาชนตั้งแต่วันที่ 2- 6 พ.ค.  สำหรับประชาชนที่ต้องการพักค้างแรมทางรัฐบาลได้จัดจุดพักค้างคืนให้จำนวน 2 จุด ได้แก่ อาคารกีฬาเวสน์ และบริเวณพุทธมณฑลศาลายา

พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หลังจากประชาชนเฝ้ารับเสด็จเสร็จสิ้นแล้วเจ้าหน้าที่จะนำประชาชนเดินทางกลับไปยังจุดที่ประชาชนเดินทางมา และมีอาหารเย็นบริการที่จุดรวมพลด้วย สำหรับประชาชนที่จะเดินทางโดยรถไฟ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการจับรถไฟขบวนพิเศษไม่คิดค่าบริการให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ฉะเชิงเทราและจ.นครปฐม เดินทางเข้ามาที่หัวลำโพง หรือแยกยมราช เพื่อเดินทางมายังจุดรวมพล ที่วัดเทพศิรินทรฯก่อนเข้าจุดรับเสด็จต่อไป ในส่วนห้องน้ำนั้นทางกทม. ได้จัดเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ ไว้ให้บริการกับพี่น้องประชาชนตามจุดต่างๆทั่วพื้นที่ ทั้งนี้ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย 

“กทม.ได้จัดพื้นที่ซอยต่างๆไว้เป็นแก้มลิง บริเวณตามแยก ซอยต่างๆ เพื่อเป็นที่พักคอย ก่อนเข้าพื้นที่รับเสด็จฯ มีน้ำดื่มจำนวน 78 จุดบริการ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเชิญให้ประชาชนเข้าสู่เส้นทางรับเสด็จในเวลาที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้นั่งกลางแดดนาน โดยจะมีการจัดเตรียมเสื่อไว้รองนั่งตามข้างเส้นทางเสด็จฯด้วย ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯทรงรับสั่งฯ เรื่องการดูแลประชาชน เพราะทุกคนถือเป็นแขกของพระองค์ท่าน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ต้องให้บริการ และให้ข้อมูลทุกอย่างได้หมด เมื่อประชาชนสอบถามมาต้องตอบได้ว่าอะไรอยู่จุดไหน นอกจากนี้สิ่งที่ทุกคนต้องพกติดตัวไว้ คือบัตรประชาชนในการเข้าพื้นที่ เพราะบัตรประชาชนถือเป็นบัตรเชิญ รวมถึงร่มกันแดด และกล้วยตากเพิ่มพลังงาน โดยแนะนำว่าควรจิบน้ำบ่อยๆ ซึ่งเราได้จัดเตรียมไว้หลายจุด” พล.ต.ท.ไกรบุญ กล่าว

ขณะที่นายวิทยา ยาม่วง รักษาการผู้ตรวจราชการ กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับการเดินทางทางน้ำ ทางกรมเจ้าท่าได้จัดเตรียมเรือไว้บริการฟรีตั้งแต่วันที่ 4-6 พ.ค. ได้แก่ เรือด่วนเจ้าพระยาจากจ.นนทบุรีมาท่าเรือปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร จำนวน 4 เที่ยว และจากท่าเรือสาทรถึงท่าสะพานพุทธ จำนวน 4 เที่ยว ส่วนเรือข้ามฟากฝั่งธนบุรีมาฝั่งพระนครฟรี ระหว่างวันที่ 4- 6 พ.ค. ตั้งแต่เวลา 06.00 น. - 22.00 น.