ข่าว"หนูนา"ปัดจ้องจะเป็นรัฐบาล ชี้ปมการเมืองมีทางออก - kachon.com

"หนูนา"ปัดจ้องจะเป็นรัฐบาล ชี้ปมการเมืองมีทางออก
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เปิดเผยถึงทิศทางการเมืองของประเทศไทยจะมีแนวทางเป็นอย่างไร หากวันนี้ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ ยังคงอยู่ ว่า ส่วนตัวเชื่อว่านายบรรหาร ต้องการให้การเมืองเกิดความปรองดอง ซึ่งที่ผ่านมานายบรรหาร ไม่ถือว่า ใครเป็นศัตรู เนื่องจากต้องการสร้างความสามัคคีปรองดองเพื่อให้ประเทศไทยนำแนวทางและนโยบายไปแก้ไขปัญหาให้เกิดความสำเร็จ ดังนั้นตนเชื่อว่าการเมืองที่ปรองดองจะเป็นสิ่งที่นายบรรหารต้องการเห็น ซึ่งทั้งหมดที่ตนกล่าวนั้น เป้นเพียงแค่การคาดเดา เพราะวันนี้นายบรรหาร ไม่อยู่ให้ถามแล้ว

เมื่อถามถึง พรรคชาติไทยพัฒนามีแนวทางสนับสนุนการปรองดองให้เกิดขึ้นอย่างไร น.ส.กัญจนา กล่าวว่า พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคการเมืองขนาดเล็ก ได้ส.ส.เพียง 10 คน ดังนั้นคงไม่มีบทบาทอะไรมาก ทั้งนี้ระหว่างการหาเสียง พรรคได้ชูจุดยืนไม่เป็นคู่ขัดแย้ง ไม่สร้างความขัดแย้ง และไม่ทำสิ่งที่ให้เกิดปัญหา แม้แต่ที่ผ่านมาหลายฝ่ายมองว่า พรรคลาติไทยพัฒนาจ้องแต่เป็นรัฐบาล แต่ตนยืนยันว่าไม่ว่า เป็นฝ่ายค้านหรืออะไร ก็สามารถทำงานได้เพื่อความสงบสุข ดังนั้นการเมืองหลังจากนี้ พรรคขนาดเล็กจึงต้องนิ่งและฟังอยู่ อีกทั้งทาง กกต.ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง จึงเชื่อว่า ทุกฝ่ายต้องรอฟังเช่นกัน ส่วนการพูดคุยกับพรรคการเมืองอื่นก็เป็นเรื่องของการฟอร์มรัฐบาลเป็นเรื่องธรรมดาและปกติที่ฝ่ายการเมืองจะพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า ภายหลังประกาศผลการเลือกตั้งมองสถานการณ์ทางการเมืองอย่างไร น.ส.กัญจนา กล่าวว่า พรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมาก คือพรรคที่พยายามจะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ทั้งนี้ในช่วงของการเลือกตั้งทุกพรรคสู้กันเต็มที่ ดังนั้นภายหลังการเลือกตั้งเชื่อว่าจะไม่เสียเปล่า เพราะประชาชนรอให้รัฐบาลใหม่เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และมีฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่รวจสอบถ่วงดุล เพื่อไม่ให้การเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา เสียของ ส่วนที่หลายฝ่ายปรเเมินว่าการเมืองอาจถึงเดดล็อกเพราะไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้นั้น ตนเชื่อว่าจะมีทางออกเมื่อสถานการณ์มาถึง

ขณะที่นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์และนโยบายพรรค กล่าวต่อประเด็นการเมืองถึงการรวมขั้วจัดตั้งรัฐบาล ว่า ต้องพิจารณาและคำนึงถึงเสถียรภาพของการเป็นรัฐบาล รวมถึงการนำนโยบายของพรรคที่หาเสียงไว้ไปปฏิบัติหรือไม่ อย่างไรก็ตามปัจจัยว่าด้วยเสถียรภาพของรัฐบาลเป็นประเด็นสำคัญ เนื่องจากหากรวมเป็นรัฐบาล 2-3 เดือน แล้วเกิดอุบัติทางการเมือง เช่น ยุบสภา หรือ เลือกตั้งใหม่ คงไม่อยากให้เกิดขึ้น

"รัฐบาลที่จะจัดตั้งต้องคำนึงถึงเสถียรภาพเป็นสำคัญ นอกจากนั้นทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ต้องมีความสามารถสูง เพื่อแก้ปัญหาสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อนในขณะนี้ อย่างไรก็ตามการพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองเพื่อร่วมมือตั้งรัฐบาล ยอมรับว่าได้คุยกันก่อนการเลือกตั้ง" นายวราวุธ กล่าว

ทั้งนี้ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ นายวราวุธ ได้กล่าวตอนหนึ่งถึงการเปิดงานอนุสาวรีย์ พณฯ บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ด้วยว่า การสร้างอนุสาวรีย์นายบรรหาร เป็นสิ่งที่ต้องการสร้างเครื่องเตือนใจสำหรับทุกคนว่า ไม่ว่ายากดีมีจน ประสบความสำเร็จ หรือมีเงินจำนวนมากขนาดไหน เมื่อตายไปไม่สามารถนำทรัพย์สินดังกล่าวไปด้วยได้ แต่สิ่งที่ยังอยู่ในคนนึกถึง คือ ความดี ผลงานที่ฝากไว้บนแผ่นดินนี้ ซึ่งนายบรรหารไม่ได้ฝากผลงานไว้บนแผ่นดินไทย ไม่เฉพาะ จ.สุพรรณบุรี

"ตายไปแล้ว เอาอะไรไปไม่ได้ จะเหลือไว้แค่ความดีและตำนานไว้ให้คนระลึกถึง ผมเชื่อว่าประวัติของพ่อบรรหารจะเป็นตัวอย่างให้หลายคนได้เป็นอย่างดี" นายวราวุธ กล่าว

ขณะที่น.ส.กัญจนา กล่าวตอบทันทีว่า อย่าโกรธอย่าเกลียดกันมาก ในที่สุด ก็ต้องตายเหมือนกัน ขอให้มาร่วมมือกัน ทำดี เพื่อให้ลูกหลานดีกว่า เพราะอีกไม่นานพวกเราก็ตายเหมือนกันหมด.