'เจิมศักดิ์'ร้องผู้ตรวจฯหลังเจอข้อหากบฏปมขึ้นเวทีกปปส.
การเมือง

โดยนายเจิมศักดิ์ กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมการชุมนุมกับกปปส.เพียงแค่จัดรายการสดบนเวทีปราศรัยในบางช่วงเวลา ไม่มีอาวุธ ไม่ได้ใช้ความรุนแรงและไม่เคยนำประชาชนเดินทางไปปิดล้อมสถานที่ราชการหรือขัดขวางการรับสมัครรับเลือกตั้งหรือขัดขวางการเลือกตั้งในปี 2557 แต่ดีเอสไอ และอัยการกลับแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันเป็นกบฏ อั้งยี่ ซ่องโจร มั่วสุมตั้งแต่ 10 ขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ร่วมกันขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งซึ่งเป็นการใช้อำนาจแจ้งข้อกล่าวหาที่เกินความเป็นจริง ไม่แยกแยะการกระทำของแต่ละบุคคลออกจากกัน ดำเนินคดีกับตนในข้อหาเดียวกันกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำกปปส. เพียงเหตุผลว่า ใครก็ตามที่ร่วมชุมนุมกับนายสุเทพ จะต้องมีความผิดเช่นเดียวกัน
“ในการจัดรายการบนเวทีปราศรัยทุกครั้งจะมีพิธีกรร่วม โดยเป็นการจัดรายการถ่ายทอดสดจากการชุมนุมบนถนนสาธารณะ ไม่เคยบุกรุกหรือเข้าไปภายในสถานที่ราชการ อีกทั้งไม่เคยจัดรายการเพียงลำพัง แต่กลับถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพียงคนเดียว ทั้งนี้ตนหนักใจในข้อหากบฏเพียงข้อหาเดียว เพราะมั่นใจมาโดยตลอดว่าการกระทำที่ผ่านมา ไม่ได้เป็นการชุมนุมเพื่อล้มล้างการปกครอง ซึ่งเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาในยุคที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เป็นอธิบดีดีเอสไอ ส่วนข้อกล่าวหาอื่นๆผมพร้อมที่จะสู้คดี” นายเจิมศักดิ์กล่าว
ด้านนายรักษเกชา แฉ่ฉายเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคล้ายกับกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ได้ยื่นคำร้องต่อประธานผู้ตรวจฯมาก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการชุมนุมของกปปส. และพวกรวม 14 คน ซึ่งในข้อหากบฏศาลรัฐธรรมนูญได้วางหลักเอาไว้แล้ว ไม่ควรมีหน่วยงานใดจะนำไปกล่าวหาหรือฟ้องได้อีก ส่วนความผิดอาญาข้อหาอื่นๆ ก็ต้องไปต่อสู้คดีกันเอง โดยทางสำนักงานผู้ตรวจฯจะเร่งทำคำร้องและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเสนอผู้ตรวจฯเพื่อวินิจฉัยต่อไป.