ข่าวเด็กปชป.ยกบทเรียนโฮปเวลล์ ทำสัญญาให้ชัดป้องซ้ำค่าโง่ - kachon.com

เด็กปชป.ยกบทเรียนโฮปเวลล์ ทำสัญญาให้ชัดป้องซ้ำค่าโง่
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 23 เม.ย.  นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ต้องคืนเงินชดเชยให้กับบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) เป็นเงิน 11,888 ล้านบาท โดยไม่รวมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี พร้อมทั้งให้คืนหนังสือค้ำประกันมูลค่า 500 ล้านบาท จากการบอกเลิกสัญญาโครงการทางรถไฟและทางด่วนยกระดับอย่างไม่เป็นธรรม  ว่า   ตนขอเสนอว่าเพื่อเป็นประโยชน์ของคู่สัญญา ควรให้ระบุในสัญญาไว้ว่ากรณีมีข้อพิพาทเกิดขึ้น ให้นำข้อพิพาทไปฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งมีตุลาการที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์คดีทางปกครองทุกประเภท ทำให้การไต่สวนได้ข้อเท็จจริงที่แท้จริงว่าฝ่ายใดปฏิบัติตามสัญญาหรือประพฤติผิดสัญญา 

ซึ่งการทำเช่นนี้มีข้อดีคือ 1.การพิพากษาคดีใดคดีหนึ่ง สามารถทำให้เสร็จได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่ต้องผ่านการวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ 2. ประหยัดดอกเบี้ย เพราะคดีสิ้นสุดได้เร็วกว่า ทำให้ระยะเวลาที่ต้องชำระค่าดอกเบี้ยลดลง เป็นประโยชน์ต่อผู้แพ้คดี 3.เป็นการพิจารณาพิพากษาที่มีประสิทธิภาพ เพราะมีการถ่วงดุลการใช้อำนาจทั้งภายในองค์คณะตุลาการ และระหว่างองค์คณะกับตุลาการผู้แถลงคดี ทำให้ได้คำพิพากษาที่ยุติธรรม กล่าวคือมีการกำหนดให้มีตุลาการเจ้าของสำนวนคนหนึ่งซึ่งแต่งตั้งจากตุลาการในองค์คณะ ทำหน้าที่แสวงหาและรวบรวมข้อเท็จจริง และมีตุลาการอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในองค์คณะ เรียกว่าตุลาการผู้แถลงคดี ทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลการทำหน้าที่ของตุลาการเจ้าของสำนวนและองค์คณะ เป็นผลให้องค์คณะต้องใช้ดุลพินิจในการวินิจฉัยคดี รวมถึงใช้อำนาจในการตัดสินคดีอย่างรอบคอบและถูกต้องมากขึ้น  หากสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชนยังคงเป็นสัญญาอนุญาโตตุลาการเช่นนี้ ในอนาคต เราจะต้องเสียค่าโง่จากอีกหลายโครงการ.