ปศ.กวาดล้างโรงฆ่าสัตว์เถื่อนสงขลา-พังงา
การเมือง
กรมปศุสัตว์จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาพร้อมควบคุมตัวผู้กระทำความผิด ของกลาง และอุปกรณ์ที่ใช้ในการฆ่าสัตว์ รวมถึงได้นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อดำเนินคดี ดังนี้ ข้อหาแรก คือ ประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา 15 แห่ง พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ข้อหาที่สอง ฆ่าสัตว์โดยไม่แจ้งการฆ่าต่อพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 31 แห่ง พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีโทษปรับตามรายตัว โค ตัวละไม่เกิน 5 หมื่นบาท สุกร ตัวละไม่เกิน 2 หมื่นบาท และข้อหาสุดท้ายคือ ฆ่าสัตว์นอกโรงฆ่าสัตว์ ตามมาตรา 39 แห่ง พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 ซึ่งมีโทษ จำคุกไม่กิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท
นายสัตวแพทย์สรวิศ กล่าวว่า การดำเนินการเข้าตรวจค้นจับกุมการประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยผิดกฎหมายครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรการปราบปรามโรงฆ่าสัตว์เถื่อนและการลักลอบใช้สารเร่งเนื้อแดง เพื่อความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเป็นหลัก เนื่องจากสัตว์ที่นำมาฆ่านั้น จะไม่ทราบแหล่งที่มาของสัตว์ ไม่มีการตรวจสอบใดๆ ไม่ได้ผ่านการตรวจโรคมาก่อน และผ่านกระบวนการฆ่าสัตว์ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้มีความเสี่ยงที่เนื้อสัตว์ถูกชำแหละแล้วไปวางจำหน่ายให้กับผู้บริโภคปนเปื้อนเชื้อโรคสูง อาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคระบาดที่สำคัญ หรืออันตรายจากสารตกค้าง เช่น สารเร่งเนื้อแดง ฮอร์โมน และยาปฏิชีวนะ เป็นต้น ส่งผลต่อสุขภาพของผู้บริโภคและอาจทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนของกลางที่เป็นซากสัตว์ทางกรมปศุสัตว์จะทำลายโดยการฝังหรือเผาตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.