ทส.ถกร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชนให้ท้องถิ่นร่วมจัดการป่า
การเมือง
นายอำนวยพร กล่าวว่า ทั้งนี้ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ได้มอบให้กรมป่าไม้ ดำเนินการจัดประชุมหารือข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. .... ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมทรัพยากรธรณี สำนักงบประมาณ กฤษฎีกา เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และประธานเครือข่ายป่าชุมชน 4 แห่ง โดยมี นางอำนวยพร ชลดำรงค์กุล รองอธิบดีกรมป่าไม้ เป็นประธานการประชุม และนางนันทนา บุณยานันต์ ผอ.สำนักจัดการป่าชุมชน เป็นเลขานุการ เพื่อประชุมหารือเรื่องดังกล่าว ใน 5 ประเด็น คือ 1. ควรแก้ไขบันทึกเหตุผลแห่งร่าง พ.ร.บ. ป่าชุมชน พ.ศ. .... โดยแก้ไขคำว่า ทรัพยากรป่าไม้ เป็น ทรัพยากรธรรมชาติ 2. ควรสร้างความร่วมมือของเครือข่ายป่าชุมชนเพื่อการดูแลรักษาป่า 3. คณะกรรมการป่าชุมชนประจำจังหวัด ควรอนุญาตให้คณะกรรมการจัดการป่าชุมชนยืนยันการใช้แผนจัดการป่าชุมชนเดิมได้ เพื่อเป็นการลดภาระของประชาชน4. ควรคำนึงถึงพื้นที่ป่าชุมชนที่มีซากดึกดำบรรพ์มิให้ได้รับความเสียหายจากการใช้ประโยชน์ภายในพื้นที่ป่าชุมชน และ5.ควรให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมป่าไม้ได้เข้ามามีส่วนช่วยเหลือประชาชนในการจัดทำแผนจัดการป่าชุมชน
รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันเสนอความคิดเห็นที่หลากหลาย และเป็นประโยชน์กับการร่างกฎหมายลูกเป็นอย่างยิ่ง โดยมติที่ประชุม มอบกรมป่าไม้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา แลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการตามข้อเสนอของที่ประชุม รวมทั้งออกกฎหมายลำดับรองตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ และมอบฝ่ายเลขานุการ จัดทำสรุปการประชุมหารือในครั้งนี้เสนอสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีโดยด่วน ต่อไป
"พ.ร.บ.ป่าชุมชน เป็นกฎหมายที่ประชาชนรอคอยมานานถึง 28 ปี และมาสำเร็จได้ในรัฐบาลชุดนี้ ต้องขอขอบคุณคณะกรรมาธิการฯ ทุกคณะ ผู้ทรงคุณวุฒิ และเจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่ช่วยกันขับเคลื่อนจนได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และกำลังจะเป็นกฎหมาย เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์และดูแลรักษาป่าได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายและยั่งยืนตลอดไป" รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว.