ข่าว"บิ๊กอู๋"ถกด่วนสางปัญหา"ผีน้อย"ลักลอบทำงานเกาหลีใต้ - kachon.com

"บิ๊กอู๋"ถกด่วนสางปัญหา"ผีน้อย"ลักลอบทำงานเกาหลีใต้
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 26 เม.ย.  ที่ห้องประชุมประสงค์ รณะนันทน์ กระทรวงแรงงาน  พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาแรงงานไทยถูกหลอกลวง และลักลอบไปทำงานที่เกาหลีใต้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงสุล กรมการท่องเที่ยว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ บริษัทท่าอากาศยาน จำกัด (มหาชน) สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีประจำประเทศไทย สำนักงาน HRD korea สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยแอร์เอเชีย จำกัด สายการบิน Eastar jet สายการบิน Jin Air สายการบิน Korean Air เป็นต้น ร่วมประชุม

โดย พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวภายหลังการประชุม  ว่า จากกรณีที่มีข่าวเผยเผยแพร่ทางสื่อมวลชนว่าคนไทย 300 คน ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ปฏิเสธการเข้าเมืองและกักตัวไว้ที่สนามบินอินชอนเพื่อผลักดันกลับประเทศต้นทาง ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มิได้นิ่งนอนใจ โดยวันนี้ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายฝ่ายมาหารือร่วมกันเพื่อรับทราบความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการสกัดกั้นคนหางานที่มีพฤติกรรมจะลักลอบไปทำงาน แผนการจับกุม ดำเนินคดีผู้มีพฤติกรรมลักลอบนำพาคนหางานไปทำงานเกาหลีใต้ และการขึ้นบัญชีดำผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่มีพฤติกรรมลักลอบนำพาแรงงานไทยไปทำงานเกาหลีใต้ เพื่อบูรณาการและสร้างความร่วมมือเตรียมพร้อมแก้ไขปัญหาโดยเร็ว เบื้องต้นได้มีแผนรองรับคนไทยที่จะเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ และเตรียมการขยายตลาดแรงงานใน 3 ประเด็น คือ 1. มาตรการรองรับแรงงานที่กลับประเทศ การให้ความช่วยเหลือของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2. การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดส่งแรงงานไทยเข้าไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และ 3. การสร้างความร่วมมือในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการลักลอบไปทำงานในเกาหลีใต้ 

พล.ต.อ.อดุลย์  กล่าวว่า ขณะนี้มีคนไทยที่เกาหลีใต้ 191,491 คน พำนักอยู่อย่างถูกกฎหมาย 49,833 คน พำนักอยู่อย่างผิดกฎหมาย 141,658 คน แรงงานมีวีซ่าทำงาน 25,243 คน เป็นแรงงานที่จัดส่งโดยรัฐตามระบบการจ้างแรงงานต่างชาติ (EPS) 21,021 คน โดยมีโควต้าจัดส่ง 5,000 คนต่อปี ทำงานในภาคการผลิต ก่อสร้าง เกษตรกรรม ซึ่งในปี 2561 มีการจัดส่ง 5,017 คน และปี 2562 (ม.ค.-เม.ย.62) 1,642 คน ในส่วนของมาตรการเร่งด่วนที่ได้ดำเนินการมี 3 มาตรการได้แก่ 1. มาตรการสร้างการรับรู้ โดยหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์ ให้แรงงานไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มาตรการบังคับใช้กฎหมาย 2. มาตรการยับยั้ง จัดชุดเฝ้าระวังและตรวจสอบอย่างเข้มงวดที่ด่านตรวจคนหางานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ตลอดจนจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ หรือสายสืบออนไลน์ เฝ้าระวัง ตรวจสอบ และประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารตลอดจนแจ้งเตือนคนหางานมิให้หลงเชื่อคำโฆษณาหรือคำกล่าวอ้างของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่โพสต์ข้อความหรือรูปภาพชักชวนให้ลักลอบไปทำงานในต่างประเทศอย่างผิดกฎหมายผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์  3. มาตรการบังคับใช้กฎหมาย โดยประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายและบทลงโทษกรณีที่ลักลอบไปทำงาน ขึ้นบัญชีดำบริษัทและสาย/นายหน้าที่หลอกลวงและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ป้องกันและตรวจเข้มเพื่อสกัดกั้นการลักลอบไปทำงานที่สนามบิน มีผลการดำเนินการสกัดกั้นคนหางาน (ก.ย.61-เม.ย.62) ระงับการเดินทางผู้มีพฤติกรรมลักลอบไปทำงาน 2,698 คน เป็นหญิง 1,727 คน ร้อยละ 64.01 ชาย 971 คน ร้อยละ 35.99 ดำเนินคดีสาย/นายหน้า จำนวน 24 ราย 18 คดี

“รัฐบาลให้ความสำคัญในการเร่งแก้ไขปัญหาแรงงานไทยลักลอบเดินทางไปทำงานในเกาหลีใต้อย่างเข้มงวดและจริงจัง เพราะเป็นประเทศที่มีแรงงานไทยทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากได้รับค่าจ้างสูงประมาณ 55,844 บาทต่อเดือน และนายจ้างเกาหลีมีความต้องการจ้างแรงงานไทย เนื่องจากมีฝีมือมีวินัย และอดทน โดยมีนโยบายให้การดูแลแรงงานไทยทั้งหมดไม่ว่าถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย มีการเตรียมการให้แรงงานใหม่ตอบโจทย์ความต้องการของนายจ้างเกาหลี พร้อมทั้งดำเนินมาตรการทางกฎหมายในการป้องกันการลักลอบทำงานหรือถูกหลอกไปทำงาน

อย่างไรก็ตาม แรงงานไทยที่ต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศ หรือแจ้งเรื่องร้องเรียน/ร้องทุกข์  สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือที่กองทะเบียนจัดหางานกลางและคุ้มครองคนหางาน กรมการจัดหางาน ก่อนตัดสินใจ อย่าหลงเชื่อคำชักชวน โดยปราศจากข้อมูล โดยเฉพาะสื่อโซเชียล ไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ใช้วีซ่าท่องเที่ยวในการทำงานไม่ได้ ควรเตรียมความพร้อมก่อนไปทำงาน เช่น ด้านร่างกาย ทักษะฝีมือ ภาษา เป็นต้น คิดให้รอบคอบ โดยคำนึงถึงความคุ้มค่าในการเดินทาง เช่น ค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับค่าจ้างที่จะได้รับ หรือการที่ต้องอยู่ห่างจากครอบครัว เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน”พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว.