ข่าวนายกฯถกเวทีBRFพร้อมหนุนยุทธศาสตร์สายแถบและเส้นทาง  - kachon.com

นายกฯถกเวทีBRFพร้อมหนุนยุทธศาสตร์สายแถบและเส้นทาง 
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการประชุมระดับสูง (High Level Meeting) ในช่วงการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation - BRF) ครั้งที่ 2 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติจีน กรุงปักกิ่ง โดยภายหลังเสร็จสิ้น พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปสาระผลการหารือว่า ในนามของประธานอาเซียนในปีนี้ นายกรัฐมนตรีรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางที่กรุงปักกิ่งในครั้งนี้ และขอบคุณรัฐบาลจีนที่ได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น อาเซียนและไทยมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับจีนมายาวนาน โดยไทยในฐานะประธานอาเซียนมีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนความสัมพันธ์ที่สำคัญนี้ให้ก้าวหน้าต่อไปภายใต้แนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน” 

นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ยุทธศาสตร์สายแถบและเส้นทาง(BRI) เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางการพัฒนาเชิงยุทธศาสตร์ของโลกต่อไป โดยยุทธศาสตร์ BRI จะช่วยส่งเสริมความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์เพื่อความเจริญรุ่งเรือง สันติภาพและอนาคตร่วมกัน เราต้องร่วมมือกันรักษาและส่งเสริมบรรยากาศแห่งสันติภาพและความร่วมมือทั้งในระดับอนุภูมิภาค ภูมิภาคและโลก อีกทั้งการไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน พร้อมยืนยันว่า ไทยจะยังคงมุ่งสร้างความร่วมมือกับหุ้นส่วนทั้งในและนอกภูมิภาค บนพื้นฐานของความโปร่งใสและความผลประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของ BRI ด้วย ขณะเดียวกันไทยและอาเซียนเห็นว่า “การเชื่อมโยง” เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืนและการบรรลุ SDGs ดังนั้น เราจึงต้องเร่งรัดความร่วมมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการเชื่อมโยงทั้ง 4 ด้านได้แก่ ความเชื่อมโยงทางกายภาพ กฎระเบียบ ดิจิทัล และประชาชนให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว 

นายกรัฐมนตรี ระบุอีกว่า ด้านกายภาพ ไทยและอาเซียนเล็งเห็นความสำคัญของการเชื่อมต่ออาเซียนสู่โลกผ่าน BRI โดยเฉพาะการพัฒนาเส้นทาง NSEC การพัฒนาเส้นทาง EWEC และเส้นทาง R9 นอกจากนี้ EEC จะเป็นหนึ่งในโครงการแม่แบบในการสร้างฐานเพื่อเชื่อมโยงไทยเข้ากับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคใกล้เคียงทั้งทางบก อากาศ น้ำและทางรางในรูปแบบการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ ทั้งนี้ไทยยังร่วมกับอาเซียนในการขับเคลื่อนแม่บทของอาเซียนว่าด้วยความเชื่อมโยงระหว่างกันในอาเซียน (MPAC 2025) และแผนแม่บท ACMECS Master Plan ปี ค.ศ. 2019-2023 จึงขอเชิญชวนจีนให้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ ACMECs เพื่อขับเคลื่อน BRI ในอาเซียนและการส่งเสริมแนวคิด “การเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ความเชื่อมโยง” ด้านกฎระเบียบ การส่งเสริม “ความเชื่อมโยงทางการค้า” โดยการเร่งรัดการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(RCEP) ที่ไทยตั้งเป้าที่จะผลักดันให้ได้ข้อสรุปภายในปีนี้ รวมทั้งการใช้ประโยชน์จาก ASEAN Single Window
 
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ด้านดิจิทัล ไทยยินดีที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมสนใจจะร่วมมือกับจีนและฮ่องกงในโครงการเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกระบบใหม่ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าไทยต้องการเห็นยุทธศาสตร์ BRI ประสบความสำเร็จ และต้องการเห็นไทย อาเซียน จีน และมิตรประเทศทุกประเทศ ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดอย่างฉันท์มิตร อย่างสร้างสรรค์  เพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสันติภาพของภูมิภาคและของโลก และเพื่อการพัฒนามั่งคั่งของพลเมืองของเรา โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง.