ข่าวอย.ดึงกลุ่มใต้ดินร่วมผลิต-วิจัยกัญชาถูกกฎหมาย - kachon.com

อย.ดึงกลุ่มใต้ดินร่วมผลิต-วิจัยกัญชาถูกกฎหมาย
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จัดประชุมจับคู่ (Matching) ระหว่างมหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และกลุ่มที่คาดว่ามีกำลังการผลิตกัญชา เพื่อให้เกิดความร่วมมือภายในพื้นที่ โดยมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยมหิดล สภาเกษตรกรแห่งชาติ กรมการแพทย์ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เข้าร่วม โดยใช้เวลามากกว่า 4 ชั่วโมง
 
นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการ อย.ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า วันนี้เป็นการหารือในหลักการเบื้องต้น เพื่อให้มีช่องทางประสานและติดต่อกันต่อไป โดยลักษณะของการจับคู่จะเป็นการจับกันในพื้นที่ ระหว่างสถาบันการศึกษา กลุ่มที่คาดว่ามีกำลังการผลิต และภาคบริการ คือ โรงพยาบาล ซึ่งขณะนี้มีรูปแบบหรือโมเดลของ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ที่ทำร่วมกับนายเดชา ศิริภัทร ประธานมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี โดยจากนี้จะส่งให้และแห่งดูเป็นตัวอย่างในการจับคู่ หรือจะจับคู่ในรูปแบบอื่นก็ได้ ส่วนถ้าจับคู่แล้วมีการวิจัยลักษณะคล้ายๆ กันก็ไม่มีปัญหาอะไร ตรงนี้ยิ่งทำให้ได้ข้อมูลผู้ป่วยที่ใช้ยาอยู่ทั้งประเทศในภาพรวม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการทำโครงการต่อไป ส่วนผู้ป่วยที่ใช้ยาจากกัญชาอยู่แล้วก็ได้ใช้ต่อไปในรูปแบบของการร่วมวิจัย ทั้งนี้ จากการพูดคุย ทางประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติและเครือข่ายพร้อมให้ความร่วมมือในการจับคู่ ซึ่งหากเกิดการจับคู่กับหน่วยงานภาครัฐแล้วก็สามารถมาขออนุญาตได้ แต่หากเป็นหน่วยงานภาครัฐที่ขออนุญาตไปแล้ว ก็สามารถร่วมมือกันได้ทันที โดยทาง อย.จะเป็นพี่เลี้ยงให้
 
นพ.ธเรศ กล่าวว่า สำหรับการมาแจ้งครอบครองกัญชาโดยไม่ต้องรับโทษ ขณะนี้มีประมาณ 6 พันกว่าคน ซึ่งจำนวนผู้มาแจ้งครอบครองกัญชาจะเป็นตัวเลขพื้นฐานที่ใช้ในการเตรียมระบบและเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ เพื่อเตรียมยาไว้สำหรับคนกลุ่มนี้ ดังนั้น การมาแจ้งครอบครองจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
 
ด้าน นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย. กล่าวว่า ขณะนี้กฎหมายลูกที่สำคัญเหลือร่างกฎกระทรวงสาธารณสุข การขออนุญาตและการอนุญาต ผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก หรือมีไว้ในครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เฉพาะกัญชา ที่อยู่ระหว่างการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา ซึ่งระหว่างนี้จะมีการส่งร่างไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย เพื่อให้รวดเร็วหลังจากผ่าน ครม. และประกาศคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษอีก 2 ฉบับ ซึ่งต้องรอกฎกระทรวงออกก่อนถึงออกตามได้ ส่วนประกาศกระทรวงสาธารณสุขออกไปครบทั้งหมดแล้ว
 
ด้าน นายประพัฒน์  ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้สภาฯ มีสมาชิกทั่วประเทศกว่า 2,300 คน และมีเครือข่ายต่างๆ ที่เป็นผู้ผลิตกัญชาอีกกว่า 10 เครือข่าย ทั้งในรูปแบบการใช้ต้ม คั้น สกัดและป่น จึงอยากให้ ทุกเครือข่ายดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องโดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกดำเนินการใดๆ เนื่องจากเมื่อขึ้นทะเบียนแล้วมีช่องทางให้ดำเนินการได้อย่างถูกกฎหมายด้วยการร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐที่กฎหมายอนุญาตเพื่อดำเนินการในลักษณะการจับคู่เป็นโครงการวิจัย ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ผลิตที่เคยดำเนินการแบบลับๆ  สามารถผลิตได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยก็จะมียาจากกัญชาใช้ต่อไป ที่สำคัญจะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานมากขึ้น มีความปลอดภัยในการนำไปใช้ ถือว่าเกิดประโยชน์ในภาพรวมต่อทุกฝ่าย
 
ผศ.ภญ.รุ่งเพ็ชร สกุลบำรุงศิลป์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวถึงความคืบหน้าการร่วมมือขับเคลื่อนวิจัยน้ำมันกัญชาสูตร อาจารย์เดชา ว่า อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพื่อยื่นขออนุญาตคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคนได้ทันที  หลังจากผ่านคณะกรรมการจริยธรรมฯ แล้ว จึงจะยื่นขอเอกสารขออนุญาตวิจัยจากคณะกรรมการยาเสพติดให้โทษเป็นลำดับต่อไปได้ ซึ่งหลังจากได้รับอนุญาตแล้วก็ยังมีรายละเอียดอีกเล็กน้อยที่ต้องเตรียม ทั้งผลิตภัณฑ์ ข้อมูลผู้ป่วย กระบวนการที่จะแจก โดยการวิจัยจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของการใช้คนไข้ จะติดตามการใช้จริง กับส่วนที่ทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์ คาดว่าเร็วที่สุดที่จะเริ่มได้คือ มิ.ย.นี้.