ข่าว"บิ๊กตู่" ชม"สีจิ้นผิง"เริ่มยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหม - kachon.com

"บิ๊กตู่" ชม"สีจิ้นผิง"เริ่มยุทธศาสตร์เส้นทางสายไหม
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมโต๊ะกลมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (BRF Leader’s Roundtable) ภายใต้หัวข้อ “ส่งเสริมความเชื่อมโยงเพื่อแสวงหาช่องทางใหม่สำหรับการเติบโต” ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติทะเลสาบเยี่ยนซี โดยนายกฯ แสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประชาชนชาวจีนในโอกาสครบรอบ70 ปี แห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปีนี้ พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมวิสัยทัศน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ได้ริเริ่มยุทธศาสตร์การริ่เริ่มแถบและเส้นทาง ( BRI )หรือเส้นทางสายไหม ซึ่งไทยจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นยุทธศาสตร์ที่จะช่วยส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก ส่งเสริมการเชื่อมโยง และการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าโลก

พล.ท.วีรชน กล่าวต่อว่า นายกฯ ย้ำว่าไทยให้ความสำคัญกับการขยายความเชื่อมโยงของอาเซียนกับภูมิภาคและโลก โดยไทยอยู่ระหว่างเร่งรัดการดำเนินการเพื่อยกระดับความเชื่อมโยงทางด้านโครงสร้างพื้นฐานทั้งภายในประเทศ รวมทั้งโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแม่แบบในการสร้างฐานเพื่อเชื่อมโยงไทยกับประเทศเพื่อนบ้านและภูมิภาคใกล้เคียง ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มีการลงนามโครงการความเชื่อมโยงระหว่างไทย-ลาว-จีน เพื่อเชื่อมต่อระหว่างหนองคาย-เวียงจันทน์ ซึ่งก็จะสนับสนุน BRI ด้วย นอกจากนี้ นายกฯ ยังให้ข้อคิดเห็นว่า ควรส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันและขยายตลาดให้ภาคธุรกิจ ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจและการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทยในการขยายตลาด โดยเชื่อมั่นว่าภาคเอกชนจะเป็นกลไกสำคัญ


พล.ท.วีรชน กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้นายกฯ แสดงความชื่นชมจีนที่เป็นผู้ริเริ่มการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) และกองทุน Silk Road Fund จึงขอเชิญจีนและมิตรประเทศที่สนใจเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ของการเชื่อมโยงจะต้องตกอยู่กับพลเมืองมากที่สุด จึงควรเน้นการพัฒนาศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพื่อเตรียมความพร้อมต่อการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของพลเมืองและกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค อย่างไรก็ตาม นายกฯ เชื่อมั่นว่าทุกประเทศจะสามารถร่วมมือกันส่งเสริมความเชื่อมโยงตามเจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ BRI เพื่อนำมาซึ่งสันติภาพ ความมั่งคั่งและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อภูมิภาคและต่อโลกต่อไป

ในวันเดียวกันนี้พล.อ.ประยุทธ์ได้โพสต์ภาพถ่ายรูปคู่ขณะจับมือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง พร้อมข้อความใต้ภาพผ่านอินสตราแกรม ชื่อ “prayutofficial” พร้อมระบุข้อความว่า “ประเทศไทยต้องไปต่อ....มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน #เดินหน้าประเทศไทย” ขณะเดินทางไปปฏิบัติราชการ เข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 2 ที่กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 26-27 เม.ย. โดยนายกฯ มีกำหนดเดินทางกลับดึงประเทศไทยในวันนี้เวลา 18.10 น.