ข่าวโพลเผยปชช.ตั้งหน้าตั้งตารอรบ.-นายกฯคนใหม่ - kachon.com

เมื่อวันที่ 28 เม.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวน1,107 คน ระหว่างวันที่ 24-27 เม.ย. 62 ในหัวข้อ “การเมืองไทย หลังเลือกตั้ง” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน ภายหลังผ่านการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค. 62  เมื่อถามถึงสิ่งที่ประชาชนรอคอยหลังจากการเลือกตั้งผ่านมา 1 เดือนเต็ม พบว่า อันดับ 1 ระบุว่า รัฐบาลใหม่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ 40.71 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น 32.03 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 3 การประกาศผลรับรองการเลือกตั้ง 25.96 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 4 การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ดีขึ้น เป็นประชาธิปไตย 17.18 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 5 มีการบริหารงานที่ชัดเจน ทำตามนโยบายที่ให้ไว้ 16.62 เปอร์เซ็นต์
 
เมื่อถามต่อว่า คิดอย่างไรต่อ “สถานการณ์ทางการเมือง” ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ระบุว่า สิ่งที่ดีขึ้น ณ วันนี้ส่วนใหญ่ ระบุว่า มีการเลือกตั้ง ประชาชนได้ออกมาใช้สิทธิของตนเอง 38.44 เปอร์เซ็นต์  รองลงมาระบุว่า จะได้รัฐบาล และนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้ง 24.73 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสิ่งที่แย่ลง ณ วันนี้ ส่วนใหญ่ระบุว่า ปัญหาการเลือกตั้งที่ยังไม่ได้ข้อยุติ  36.47 เปอร์เซ็นต์รองลงมาระบุว่า สภาพเศรษฐกิจ ปัญหาค่าครองชีพของประชาชน 24.27 เปอร์เซ็นต์
 
ขณะที่ความสับสนทางการเมืองก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้ง อันดับ 1 ระบุว่า สับสนพอๆ กัน  47.33 เปอร์เซ็นต์ เพราะ กกต. ไม่มีความชัดเจน เกี่ยวข้องกับการตีความตามกฎหมาย รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องเข้าใจยาก  มีการปล่อยข่าวลวงทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ฯลฯ อันดับ 2 ระบุว่า หลังเลือกตั้งสับสนมากกว่า 33.98 เปอร์เซ็นต์ เพราะการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจน การจับขั้วทางการเมืองของพรรคการเมืองต่างๆ  มีการร้องเรียนให้นับคะแนนใหม่  ยังไม่มีข้อสรุปของการหาสูตรคำนวณที่นั่งส.ส. ฯลฯ และอันดับ 3 ระบุว่า ก่อนเลือกตั้งสับสนมากกว่า 18.69 เปอร์เซ็นต์ เพราะมีกระแสข่าวเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะการเลื่อนวันเลือกตั้ง บัตรลงคะแนน ยุบพรรคการเมือง  ผู้สมัครย้ายพรรค การแข่งขันของพรรคการเมืองต่างๆ ในการลงพื้นที่หาเสียง ฯลฯ
 
สุดท้ายสิ่งที่ประชาชนอยากบอกกับนักการเมืองไทย คือ อันดับ 1ระบุว่า เป็นนักการเมืองที่ดี ทำตามหน้าที่ รักษาสัญญา 50.12 เปอร์เซ็นต์ อันดับ 2 ระบุว่า ยุติการทะเลาะแบะแว้ง ใส่ร้ายป้ายสี โจมตีกันไปมา 31.43 เปอร์เซ็นต์ และอันดับ 3  ระบุว่า ขอให้ทุกฝ่ายเห็นแก่ส่วนรวม ร่วมมือกันพัฒนาประเทศชาติให้ก้าวหน้า 21.48 เปอร์เซ็นต์.