ข่าวร้องสอบ'กกต.'ส่อเลือกปฏิบัติ อ้างไม่เช็ก'บิ๊กตู่'เปิดโซเชียล - kachon.com

ร้องสอบ'กกต.'ส่อเลือกปฏิบัติ อ้างไม่เช็ก'บิ๊กตู่'เปิดโซเชียล
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 29 เม.ย.  ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเสนอความเห็นต่อศาลปกครองว่า กฎ คำสั่ง การกระทำของ กกต.มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่ เนื่องจากกกต.ได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ในฐานะผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามไม่ให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. โดยเป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นบริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด จำนวน 675,000 หุ้น นอกจากนั้น กกต.ยังได้ยื่นฟ้องผู้สมัครส.ส.จากพรรคการเมืองต่างๆ ต่อศาลฎีกาแล้ว 11 ราย แต่ กกต.กลับไม่รับตรวจสอบกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเปิดเฟซบุ๊ก อินสตราแกรม ทวิตเตอร์ และเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อสื่อสารกับสาธารณชน จึงถือเป็นเจ้าของสื่อมวลชนใดๆ ที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญเช่นกัน

นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า การปฏิบัติที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดของกกต. ระหว่างกรณีพล.อ.ประยุทธ์ กับนายธนาธร อาจทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ไปกว่า 6 ล้านเสียง มองว่าเป็นเจตนาเพื่อให้ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งทั่วไปของพรรคอนาคตใหม่ และอาจถูกตั้งข้อสังเกตว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นเจ้าของสื่อไม่ผิด แต่นายธนาธรเป็นผู้ถือหุ้นสื่อกลับผิด ตนจึงยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้เสนอความเห็นไปยังศาลปกครองว่าการกระทำของกกต.มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายหรือไม่ ทั้งนี้ตนเห็นด้วยกับการดำเนินคดีผู้สมัครของพรรคการเมืองต่างๆ 11 คดี และการตรวจสอบนายธนาธร แต่กกต.ไม่ควรข้ามพล.อ.ประยุทธ์ ตนมองว่าความหมายของสื่อมวลชนกว้างมาก ซึ่งแม้แต่พล.อ.ยอดยุทธ บุญญาธิการ สมาชิกสนช.ก็เห็นแย้ง บอกว่าการห้ามถือหุ้นสื่อจะกระทบต่อสิทธิของผู้สมัครจำนวนมาก เพราะมีกิจการสื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์จำนวนมาก และไม่เป็นไปตามหลักสากล

“ก่อนที่กกต.จะประกาศรับรองส.ส.ขอให้กกต.ใช้อำนาจตรวจสอบว่าที่ส.ส.ทั้ง 350 คน ว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ โดยยังไม่แจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) ให้ตรวจสอบอย่างละเอียด ซึ่งหากตีความเรื่องการถือหุ้นสื่อแบบนี้คาดว่าจะมี ส.ส.กว่าครึ่งสภาที่ขาดคุณสมบัติ”นายเรืองไกรกล่าว.