ข่าว'เสี่ยหนู'เรียกแขก!เทใจร่วมรบ. หนุนทุกนโยบายภท. - kachon.com

'เสี่ยหนู'เรียกแขก!เทใจร่วมรบ. หนุนทุกนโยบายภท.
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ที่พรรคภูมิใจไทย  (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แถลงข่าวภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 1/2562 ว่า ตนได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบว่าตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดท่าทีทางการเมืองใดๆได้ เพราะเรายังไม่ทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ อีกทั้งวันนี้ยังมีการนับคะแนนใหม่กันอยู่ พรรคจึงตัดสินอยู่อย่างเงียบๆ เพื่อรอให้ทุกอย่างได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองมากที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบัน นอกจากนี้ ได้กำชับให้สมาชิกพรรคทุกคนใช้ช่วงเวลามหามงคลอยู่กับประชาชนและชักชวนให้ประชาชนออกมาร่วมงานพระราชพิธีฯ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี ตอนนี้ขอให้ลืมเรื่องการเมืองไปก่อนจนกว่าพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะผ่านพ้นไปด้วยความเป็นมงคล ซึ่งหลังจากวันที่ 8-9 พ.ค. ค่อยมาคิดหาแนวทางและทิศทางทางการเมืองของทุกคนต่อไป  ส่วนเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้พรรคและสมาชิกพรรคจะช่วยกันสนับสนุนให้พรรคได้รับความนิยมมากที่สุด  

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครส.ส.กรณีถือหุ้นสื่อ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกคนต้องเคลียร์ตัวเองก่อนที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ว่าตัวเองมีคุณสมบัติอย่างไร ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมาย หากมีการร้องเรียนให้ตรวจสอบก็ไปชี้แจง ตนมั่นใจว่าสมาชิกพรรคและผู้สมัครของพรรคทุกคนจะสามารถชี้แจงคุณสมบัติของตัวเองได้  อย่างไรก็ตามการแข่งขันแบบนี้จะไปห้ามคนร้องเรียนก็ไม่ได้ ดังนั้นใครร้องอะไรมา เราก็ต้องมีหลักฐานไปยืนยันว่าได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง 

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยจะร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยหรือพรรคฝั่งสืบทอดอำนาจ นายอนุทิน กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยประกาศมาตลอดว่าจุดรีเซ็ทคือการเลือกตั้ง ใครก็ตามที่ผ่านการเลือกตั้งมาแล้ว ถือว่าผ่านกระบวนการประชาธิปไตย เพราะฉะนั้นพรรคภูมิใจไทยจะไปทางไหนหรือไปกับใคร เราไม่ได้ดูว่าอยู่ฝั่งไหน แต่จะดูว่าสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ มีความขัดแย้งใดๆหรือไม่ เข้าใจกันหรือไม่ และมองเห็นประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลักชัยหรือไม่ นี่คือสิ่งที่พรรคจะพิจารณาว่าจะไปร่วมรัฐบาลกับใคร เนื่องจากเราไม่ได้เป็นพรรคแกนนำ ไม่ได้คะแนนเป็นที่หนึ่ง ก็ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว และรู้สถานะของตัวเอง ทั้งนี้อย่ามาพูดเรื่องเป็นหรือไม่เป็นประชาธิปไตยอีกเลย เพราะทุกคนผ่านกระบวนการประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญมาหมดแล้ว และเท่าที่เห็นก็ยังไม่มีกระบวนการไหนในการเลือกตั้งที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ พรรคภูมิใจไทยบอกมาตลอดว่าเราเคารพกติกาทุกอย่างที่มาจากรัฐธรรมนูญ  และหลังจากการเลือกตั้ง พรรคยังไม่ได้ทำอะไรที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ 

เมื่อถามว่า จะผลักดันนโยบายกัญชาเสรีหรือผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า การผลักดันนโยบายน่าจะผลักดันได้เร็วกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ  พรรคภูมิใจไทยเข้าสภาฯเพื่อทำงาน เราไม่ได้มีปัญหาอย่างมีนัยยะกับรัฐธรรมนูญ จนรู้สึกว่าจะทำงานไม่ได้ พรรคจึงกล้าที่จะแถลงจุดยืนและนโยบายที่ตั้งใจจะทำได้ทันที ทำได้เร็วและทำได้เลย เพราะรู้ว่าถ้ามัวแต่ไปวุ่นวายหรือกังวลกับปัญหาทางการเมือง เราจะทำงานไม่ได้ พี่น้องประชาชนเลือกพรรคภูมิใจไทยเข้ามาทำงาน และแก้ไขปัญหาปากท้อง เราต้องทำตามสิ่งที่ประชาชนได้สั่งการ ไม่ได้เข้ามาแก้ไขอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเราเอง 

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีพรรคการเมืองใดทาบทามให้เข้าไปร่วมรัฐบาลแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะทุกคนต้องรอผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อพ้นการเลือกตั้งมาก็มีวันหยุดยาว และคนก็รู้สึกเหนื่อย จึงยังไม่ได้มีการพูดคุยติดต่ออะไรกัน  เพียงแต่อาจเจอกันตามงานต่างๆ ก็แสดงความยินดีซึ่งกันและกัน เป้าหมายของเราคือการนำตัวเองเข้าไปในสถา เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนให้ได้ก่อน ส่วนเรื่องอื่นค่อยกำหนดในภายหลัง 

เมื่อถามว่า มีกระแสเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน กล่าวว่า "เป็นกระแส ก็ว่ากันไป ใครจะรู้ดีกว่าผม เพราะไม่เห็นมีใครมาให้ผมสักคน เรื่องนี้เป็นการคาดการณ์  พรรคภูมิใจไทยบอกแล้วว่า จะเข้าไปเจ้ากี้เจ้าการก็ต่อเมื่อได้รับคะแนนเป็นพรรคที่1 มีส.ส.มากมาย แต่ตอนนี้เป็นพรรคลำดับที่ 5 ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นเราต้องให้คนที่มาที่ 1 ที่ 2 สามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ แต่ผมก็ยังไม่เห็นความเคลื่อนไหวที่มีนัยยะสำคัญจากฝ่ายใดเลย"

เมื่อถามย้ำว่า หากมีการเสนอเข้ามาว่าให้เป็นนายกฯจริงๆ จะรับหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า "ไม่รับครับ บอกแล้วว่าคนเราจะได้อะไรต้องสมควรได้ ไม่ใช่ว่าหาทางออกไม่ได้แล้วโยนมาให้ นี่เป็นเรื่องของบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องตัวเอง ถามว่าอยากเป็นนายกฯไหม ตอบว่าอยากเป็น แต่จะเป็นได้หรือไม่ได้ มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย"

เมื่อถามว่า ท่าทีของพรรคหลังวันที่ 9 พ.ค. จะเปิดประตูเจรจาแบบอ้าซ่าหรือไม่ นายอนุทิน ย้อนถามว่า "ทำไมต้องบอกว่าเปิดประตูอ้าซ่า ทำไมไม่บอกว่าปิดประตูแล้วให้คนหา ธรรมชาติการเมืองมันมีอยู่แล้ว เมื่อถึงเวลา คนนี้จะคุยกับคนนี้  มันกำหนดไม่ได้ถ้ามาถามผมตอนนี้ แต่เมื่อถึงเวลาจริงๆ ผมจะรู้ว่าถ้าเกิดโทรศัพท์สายนี้ดังเข้ามา เราควรจะคุยกับคนนี้ แล้วคิดว่าน่าจะมีข้อสรุป หรือว่าเราไม่ควรจะรับสายคนนี้ เพราะคุยไปก็ไม่ได้ข้อสรุป ถือเป็นสัญชาตญาณ เพราะอธิบายไม่ได้ วันนี้ผมก็ยังไม่ทราบว่าจะคุยกับใคร และยังไม่มีใครโทรเข้ามา"

เมื่อถามว่า หากมีพรรคการเมืองใดตอบรับนโยบายกัญชาเสรี พรรคภูมิใจไทยก็จะไปร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องรับทุกนโยบาย เพราะเราไม่ได้มีเพียงนโยบายกัญชาเสรีอย่างเดียว 

เมื่อถามถึงกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ระบุมีหลักฐานเด็ด อาจถึงขั้นนำไปสู่การยุบพรรคภูมิใจไทยได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องพิสูจน์ แต่ตนได้สอบถามผู้ที่ถูกร้องเรียน และผู้ที่ดูแลพื้นที่ภาคใต้ของพรรคแล้ว ทุกคนยืนยันว่าเข้าสู่การแข่งขันที่เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ 
“ขอให้พรรคการเมืองคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน เมื่อถึงเวลาก็ส่งสมาชิกลงรับเลือกตั้ง ถ้าการเลือกตั้งไม่เป็นโมฆะ ก็เป็นเรื่องดี จะได้ทำงานต่อไป  แต่หากเป็นโมฆะ ก็ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ถือเป็นกงกรรมกงเกวียน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยเข้าใจธรรมชาติของการเมืองดีอยู่แล้ว” นายอนุทิน กล่าว.