ข่าว'ปิยบุตร'ยก3ปมฟ้องกกต.กราวรูด ม.157-ฝืนจริยธรรมร้ายแรง - kachon.com

'ปิยบุตร'ยก3ปมฟ้องกกต.กราวรูด ม.157-ฝืนจริยธรรมร้ายแรง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. ที่อาคารไทยซัมมิท ชั้น5 ที่ทำการพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า สำหรับความผิดพลาดในการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มี 3 ประเด็น คือ 1.การคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ล่าสุด พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. แถลงเหมือนจะใช้สูตรคิดส.ส.บัญชีรายชื่อแบบ 27 พรรค ก่อนจะประกาศรับรองผลร้อยละ 95 วันที่ 9 พ.ค. หากคิดแบบนี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ จะหายไป 7-8 ที่นั่ง คิดเป็น 6 แสนกว่าคะแนนที่ประชาชนนเลือกอนาคตใหม่จะอยู่ในฐานะผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งขอยืนยันว่า การคำนวณมีสูตรเดียวตามขั้นตอนที่รัฐธรรมนูญกำหนด ในมาตรา 91 (1) ให้นำคะแนนรวมแบบแบ่งเขตของทุกพรรคหารด้วย 500 คือ 71,057 คะแนน จากนั้น 91(2) นำคะแนนรวมแบบแบ่งเขตของแต่ละพรรค หาร 71,057 จะได้ส.ส.พึงมี อนาคตใหม่จะมีส.ส.พึงมี 88 คน ซึ่งเขียนชัดว่า จำนวนส.ส.ต้องไม่เกินจำนวนส.ส.พึงมี จึงต้องมี 71.057 คะแนน ถึงจะได้ส.ส. 1 คน

นายปิยบุตร กล่าวว่า มีกรณีเดียวคือ 99 (4) กำหนดว่า หากพรรคไหนได้ส.ส.แบบแบ่งเขตเกินส.ส.พึงมี ให้ถือว่าได้ส.ส.จากแบบแบ่งเขต และจะไม่ได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเลย ซึ่งมีพรรคเดียวเท่านั้นคือพรรคเพื่อไทย ที่ได้ส.ส.เขต 136 มีส.ส.พึงมี 111 เรียกโอเวอร์แฮง ก็ต้องคำนวนปัดเศษตามพรรคที่มีคะแนนตั้งแต่ 71,065 คะแนนขึ้นไป นอกเหนือจากนี้จะไม่ถูกคิดโดยไม่มีข้อยกเว้น ซึ่งคิดแบบนี้อนาคตใหม่จะมีส.ส.พึงมี 88 คน ข้อโต้แย้งที่บอกว่าระบบเลือกตั้งนี้ต้องการให้ความสำคัญกับทุกคะแนน พรรคที่ได้ 30,000 - 69,000 คะแนน จะไม่ให้ความสำคัญหรือ ตนก็ขอถามกลับว่าแล้ว 6 แสนกว่าคะแนนของอนาคตใหม่ที่จะหายไปนั้น ไม่สำคัญเลยหรือ ส่วนการนำความเห็นของกรธ.มาอธิบาย แต่กรธ.แต่ละคนก็อาจเห็นไม่ตรงกันก็ได้ และความเห็นกรธ.ไม่ใช่รัฐธรรมนูญ กรธ.ไม่เท่ากับรธน. เมื่อร่างเสร็จแล้ว รัฐธรรมนูญก็มีชีวิตของมัน องค์กรตามรัฐธรรมนูญก็ต้องตีความรัฐธรรมนูญตามอำนาจหน้าที่ ไม่ใช่ถามความเห็นกรธ. ถ้าทำแบบนี้กรธ.ก็เป็นรธน.เสียเอง ไปถามอะไรก็ต้องทำตาม กรธ.ศักดิ์สิทธิ์ไปหมด

"ขอสงวนสิทธิ์ในการดำเนินคดีต่อกกต. ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 69 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต. ที่กำหนดถึงการละเว้นของกกต. มีโทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี และยังถือเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง สามารถร้องยังป.ป.ช.และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ง่ายๆคือ ช่องทางต่างๆที่กกต.ต้องรับผิดชอบจากการใช้อำนาจโดยมิชอบ อนาคตใหม่ขอสงวนสิทธิ์ดำเนินการตามกฎหมาย"นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตร กล่าวว่า 2.การเปิดเผยคะแนนดิบรายหน่วย ตามที่อนาคตใหม่เคยส่งตัวแทนไปยื่นหนังสือต่อกกต.ขอให้เปิดเผย แต่รองเลขาธิการกกต.ได้แถลงข่าวโดยสรุปว่า คะแนนดิบไม่ได้เป็นความลับ อยู่ที่กกต.จังหวัด ใครอยากได้ให้ไปขอ ซึ่งหนึ่งเดือนหลังการเลือกตั้ง ผู้สมัครส.ส.อนาคตใหม่ได้ไปขอคะแนนดิบแล้วในทุกเขต แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ ส่วนที่ได้ก็มีปัญหา เช่น จ.นครปฐม เขต 1 จนกกต.สั่งให้นับคะแนนใหม่ จ.กรุงเทพมหานคร เขต 2 ได้คะแนนรายหน่วยมาก็พบข้อพิรุธข้อบกพร่อง ในแบบฟอร์มขีดคะแนน และใบผลคะแนนรายหน่วย เมื่อนำมาเปรียบเทียบก็พบคะแนนทั้งสองส่วนไม่ตรงกัน ทั้งหมดนี้ สะท้อนว่ามีความผิดพลาดบกพร่องในการนับคะแนน จึงต้องทราบคะแนนรายหน่วยทั้งหมด ถ้ารายแรงมากจะได้ขอให้นับใหม่เลือกตั้งใหม่ หากไม่ได้คะแนนรายหน่วยจะทำตรวจสอบไม่ได้

นายปิยบุตร กล่าวว่า 3.กระบวนพิจารณาการถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย จำกัด ของนายธนาธร จึงรุ่งเรือองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่มีการชี้แจงหลักฐานโดยละเอียด แต่ต่อให้เปิดเผยแค่ไหน ระบบการพิสูจน์ ก็เหมือนกับในยุคกลางแบบ"จารีตนครบาล" หรือไม่ ทั้งนี้ การให้เวลาชี้แจงเพียง 7 วันถือว่าสั้น แล้วยังไม่ได้บอกข้อเท็จจริงอีก เมื่อไปดูเทียบเคียงคดีพรรคอื่นพบว่า ทำไมจึงช้า เช่น การร้องเรียนตรวจสอบการจัดโต๊ะจีนระดมทุน ทั้งยังไม่รู้ว่าจะต้องชี้แจงตรงไหนบ้าง ส่งการบ้านโดยไม่บอกโจทย์อะไรเลย และขอย้ำว่ากกต. ไม่มีอำนาจในการตรวสจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามนายธนาธร ในเวลานี้ โดยมีอำนาจตรวจสอบในวันที่สมัคร และก่อนวันเลือกตั้ง ระฆังหมดยกคือวันที 23 มี.ค. พอหลังเลือกตั้ง แต่ยังไม่ประกาศผล ระหว่างนี้การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ทำได้เฉพาะผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ตามที่มาตรา 53 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.กำหนดไว้เท่านั้น ที่กำหนดต่างกันเพราะ ส.ส.แบบแบ่งเขต คะแนนที่ได้จะส่งผลต่อคะแนนของบัญชีรายชื่อ จึงให้ตรวจได้อีกครั้ง แต่ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อนั่งเฉยๆรอดูผลคะแนนแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง หากจะตรวจคุณสมบัติ ต้องรอรับรองผลส.ส.ก่อน โดยต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย

เมื่อถามถึงกรณีที่ นายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ จ.สกลนคร เขต 2 ถูกศาลชี้ไม่สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง นายปิยบุตร กล่าวว่า ไม่เห็นดัวยกับคำพิพากษา ทำให้เห็นว่ามีปัญหาเรื่องบริคณห์สนธิ เพราะในความเป็นจริงบริษัทของนายภูเบศวร์ทำรับเหมาก่อสร้าง แต่มีข้อหนึ่งเขียนถึงสื่อ ก็ถูกนักร้องไปนั่งตามหาใบบริคณห์สนธิกัน วันๆชีวิตไม่ต้องทำอะไร ค้นข้อมูลร้องกันไปมา ประเทศนี้จะบริหารกันด้วยการค้นหาบริคณห์สนธิกันหรือ ซึ่งขอเตือนบรรดานักร้องว่าหลายเรื่องเข้าข่ายฟ้องเท็จ บางคนปิดกิจการไปแล้ว บางคนตายไปแล้ว บางคนโอนห้นไปแล้ว โดยมาตรา มาตรา 143 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ใครที่กล่าวหาคนอื่นว่า ไม่มีสิทธิสมัครส.ส. ต้องโดนใบเหลือ ใบส้ม เป็นเท็จ มีโทษจำคุก 5-10 ปี ปรับ 1-2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี นักร้องที่จะกลั่นแกล้งทางการเมือง อยากบอกว่า ถ้าอยากเป็นนักร้องต้องมืออาชีพหน่อย

"เรายังกำลังใจดีใช้ชีวิตปกติ จัดกิจกรรมกันปกติ แต่กลับมีเรื่องหงุดหงิดกวนใจ แทนที่จะทำได้เรื่องสร้างสรรค์ ตอนนี้ทำท่าจะบานปลาย ต่างขุดคุ้ยกันมาอีก บ้านเมืองเราจะไม่คิดเรื่องการตั้งรัฐบาล การบริหารประเทศกันแล้วหรือ ผลการเลือกตั้งออกมาแล้ว ก็ต้องเคารพเสียงประชาชนกันบ้าง นายธนาธรจะหัวเสียก็เรื่องนี้ แทนที่จะได้ดูงาน กลับต้องคอยมาชี้แจงอีก ชี้แจงก็ไม่ฟังบอกปลอม จะต้องตรวจสอบดีเอ็นเอกันแบบจับอาชญากรเลยหรือไม่"นายปิยบุตรกล่าว