ข่าวสธ.ห่วงปชช.การ์ดตกทำติดเชื้อพิษสุนัขบ้าดับ - kachon.com

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อปี 2561 ประเทศไทยมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้ามากถึง 18 ราย โดยอยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ ระยอง สงขลา และตากจังหวัดละ 2 ราย สุรินทร์ ตรัง นครราชสีมา ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง หนองคาย ยโสธร กาฬสินธุ์ มุกดาหาร และสุราษฎร์ธานี จังหวัดละ 1 ราย นับว่าเป็นการระบาดใหญ่อีกครั้งหนึ่ง แต่ในเรื่องร้ายๆ ยังมีข้อดีอยู่บ้างคือทำให้มีการปรับแก้ระเบียบกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการควบคุมป้องกันโรคได้ ทั้งเรื่องของการปูพรมฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้าทั้งในสัตว์ที่มีเจ้าของ และสัตว์จรจร รวมถึงการแก้ไขปัญหาสุนัขจรจัดทั้งเรื่องของการนำไปอยู่ในแหล่งพักพิงสัตว์ การควบคุมปริมาณก็ไม่ได้รับการต่อต้านเหมือนเช่นที่ผ่านๆ มามากนัก ถือว่าทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือดี ประชาชนตื่นตัว  

อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ถ้าพิจารณาจากรูปแบบของการระบาดของโรคพิษสุนัขบ้าในหลายๆ รอบที่ผ่านมาจะพบว่าหากกราฟสัตว์ติดเชื้อ รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นสูง ก็จะค่อยๆ ลดต่ำลงมา และคงตัวก่อนจะพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งหากไม่มีการบริหารจัดการ ซึ่งครั้งนี้มีมาตรการควบคุมป้องกันออกมาอย่างเข้มข้น แต่เหมือนว่าในส่วนของประชาชนนั้นการ์ดตกไปหน่อย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายที่จังหวัดสุรินทร์และนับว่าเป็นรายแรกของปี 2562 หลังจากที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมานาน ซึ่งเวลามีผู้เสียชีวิตรายหนึ่งจะเหมือนกับยอดภูเขาน้ำแข็ง จะเห็นว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ถูกสุนัขกัดตั้งแต่พ.ย.2561 แต่ไม่ได้มาฉีดวัคซีน กระทั่งผ่านไปเกือบจะ 6 เดือนก็เสียชีวิต ตรงนี้สะท้อนว่าในพื้นที่มีสัตว์ติดเชื้อพิษสุนัขบ้าแน่นอน รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงก็ย่อมมีความเสี่ยงด้วย ดังนั้น เมื่อเร็วๆ นี้หลังจากมีผู้เสียชีวิตแล้วทางปศุสัตว์ได้มีการลงพื้นที่ไปฉีดวัคซีนในสัตว์ในพื้นที่โดยรอบตามหลักเกณฑ์ พร้อมกันนี้ในส่วนของหน่วยงานด้านสาธารณสุข ร่วมกับทางจังหวัดได้ออกรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชน 

เมื่อถามว่า แสดงว่าในพื้นที่ที่เคยมีคนเสียชีวิตยังถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงอยู่หรือไม่ นพ.สุวรรณชัย กล่าวต่อว่า แน่นอน เพราะการมีผู้เสียชีวิต 1 ราย แปลว่ามีสัตว์ติดเชื้อในพื้นที่นั้น แล้วเราไม่รู้ว่าสัตว์ตัวนั้นไปแพร่เชื้อให้กับสัตว์ตัวอื่นๆ อีกมากน้อยแค่ไหน ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงหน้าร้อนซึ่งทำให้สัตว์หงุดหงิดทำให้สัตว์กัดกันเอง ถ้าตัวใดตัวหนึ่งมีเชื้อก็เสี่ยงติดต่อกันได้ง่าย นอกจากกัดกันเองแล้วก็ยังเสี่ยงกัดคนที่เข้าไปใกล้มันด้วย ดังนั้นขอให้ประชาชนระมัดระวัง ยึดคาถา 5 ย. คือ 1.อย่าแหย่ ให้สัตว์โมโหเพราะอาจโดนข่วนหรือกัดได้ 2.อย่าเหยียบ บริเวณลำตัว ขา หรือหางของสัตว์ 3.อย่าแยก สัตว์ที่กำลังกัดกันด้วยมือเปล่า 4.อย่าหยิบ จานข้าวหรืออาหารขณะสัตว์กำลังกิน และ 5.อย่ายุ่ง กับสัตว์ที่ไม่รู้จักคุ้นเคย และขอย้ำกับประชาชนว่าอย่าการ์ดตก หากถูกกัด ข่วน เลีย ให้รีบทำความสะอาดแผลและไปพบแพทย์เพื่อประเมินการรับวัคซีน และต้องรับให้ครบตามเกณฑ์.