รัฐประสานปตท.-กฟผ.รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ
การเมือง
Webmaster
2019-05-02 12:45:00
16
-
สนับสนุนเนื่อหา
-
เมื่อวันที่ 2 พ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ที่ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตรได้ย้ำว่าเป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันอันเนื่องจากราคาผลผลิตตกต่ำ จากสภาพอากาศร้อนจัดที่ส่งผลปาล์มสุกเร็ว ทำให้ผลปาล์มดิบออกสู่ตลาดจำนวนมาก ล้นกำลังสกัดจากโรงสกัดที่มีอยู่ ซึ่งส่งผลให้ปาล์มหน้าลานเท มีราคาตกลง โดยรองนายกฯกำชับให้กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม ประสานงานใกล้ชิด เร่งลดปริมาณน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกิน และดำเนินมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศด้วยการใช้น้ำมันปาล์มดิบเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า การส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 รวมทั้งการเข้มงวดตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบคงเหลือให้เป็นผลรูปธรรมโดยเร็ว
พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตรได้มอบหมายให้กระทรวงพลังงาน โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำแนวทางการดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 200,000 ตัน ไปผลิตกระแสไฟฟ้า ใน 3 เดือน โดยเร่งจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดคุณสมบัติทันทีในเดือน พ.ค. จำนวน 100,000 ตัน (ชำระภายใน 7 วัน หลังการส่งมอบ) พร้อมทั้งให้กระทรวงพลังงาน โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เร่งเข้ามาจัดซื้อน้ำมันปาล์มดิบ เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดีเซลบี 20 และประสานกับทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กระตุ้นและส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล บี 20 รวมทั้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานและติดตามความร่วมมือจากโรงงานสกัดทุกโรง นอกจากนี้ขอให้กระทรวงพาณิชย์ประสานงานกระทรวงเกษตรฯ นำแนวทางแก้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม โดยเร่งติดตามขับเคลื่อนแก้ปัญหาทั้งระบบให้มีผลทันที รวมทั้งให้ประสานลดราคาปุ๋ยแก่เกษตรกร และส่งเสริมการบริโภคน้ำมันปาล์ม พร้อมทั้งให้กระทรวงเกษตรฯ เร่งเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรง ทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการสายพันธุ์ปาล์ม การเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งการดูแลช่วยเหลือสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อการเกษตร ทั้งนี้คณะกรรมการฯ จะเร่งนำข้อสรุปจากการประชุมเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 พ.ค.2562.