"คารม"โร่แจ้งความกลับ"ศรีสุวรรณ"ปมถือครองหุ้นสื่อ
การเมือง
นายคารม กล่าวว่าเมื่อวันที่29 เม.ย. ที่ผ่านมาตามที่ตนถูกนายศรีสุวรรณกล่าวหาว่าได้ถือหุ้นบริษัทสำนักพิมพ์สามพอจำกัดซึ่งได้เลิกกิจการไปแล้ว6 ปีโดยตนยื่นคำขอจดทะเบียนเลิกและชำระบัญชีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ตามแบบฟอร์มรช.1 ลงวันที่4 ก.ย.2556 มีหนังสือรับรองรายการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีลงวันที่27 ก.ย. 2556 เรียบร้อยแล้วสำหรับกรณีนี้มีผู้สมัครและว่าที่ส.ส.พรรคถือหุ้นสื่อแบ่งออกเป็น3 กลุ่มคือ1. หุ้นสื่อของบริษัทที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับสื่อจริงและได้ปิดตัวลงไปก่อนแล้วแต่ยังปรากฎชื่อของผู้ถือหุ้นอยู่ 2. ถือหุ้นของบริษัทไม่ได้เป็นประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสื่อโดยตรงเช่นกรณีตนที่เป็นสื่อสิ่งพิมพ์แต่ไม่ใช่สื่อมวลชนและ3.ถือหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดที่จดแจ้งขึ้นมาโดยไม่ได้ประกอบกิจการใดๆมานานกว่า5 ปีส่วนนี้ตามกฎหมายจะถือว่าเลิกกิจการไปโดยปริยาย
นายคารม กล่าวต่อว่า ฉะนั้นการกระทำของนายศรีสุวรรณที่ได้หยิบยกประเด็นเรื่องบัญชีผู้ถือหุ้นและวัตถุประสงค์การถือครองนั้นเพียงพอหรือไม่มีการตรวจสอบเอกสารถี่ถ้วนแล้วหรือไม่ทั้งนี้ทางพรรคยอมรับความเห็นต่างจึงเห็นควรว่าจะดำเนินคดีตามมาตรา143 วรรค2 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยผู้สมัครส.ส. ผู้ใดกลั่นแกล้งกล่าวหาให้ผู้อื่นเข้าใจผิดว่าผู้สมัครส.ส. ไม่มีสิทธิรับสมัครเลือกตั้งหรือระงับการประกาศผลการเลือกตั้งต้องระวางโทษจำคุกสูงสุด10 ปีปรับสูงสุด2 แสนบาทและให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกําหนดยี่สิบปี โดยจะไม่แจ้งความฐานหมิ่นประมาทรวมถึงพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เพื่อให้ประชาชามีสิทธิที่จะวิจารณ์ออกความเห็นได้ เบื้องต้นพ.ต.ท.สุบรรณ์ สอบปากคำผู้ร้องทุกข์ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป