"พีระพันธุ์"ยันไม่ถือหุ้นสื่อ แจงจดทะเบียนครอบจักรวาล
การเมือง
นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อว่า การทำกิจการหมายถึงบริษัทต้องทำกิจการนั้นจริง ถ้าพูดตามกฎหมาย คำว่าทำกิจการกับมีวัตถุประสงค์นั้นต่างกัน บริษัทมีวัตถุประสงค์เพื่อการนี้ แต่ไม่ได้แปลว่าประกอบกิจการด้านนี้ เพราะฉะนั้นในทางปฏิบัติของกระทรวงพาณิชย์กับทนายที่จดทะเบียนในเรื่องนี้ เขาก็จะจดทะเบียนวัตถุประสงค์แบบครอบจักรวาลไว้ก่อน แต่เวลาที่เราจะทำกิจการอันไหน เราก็จะระบุไว้ในเอกสารอีกส่วนหนึ่ง และไปดูภาษีมูลค่าเพิ่มว่าจะจ่ายเกี่ยวกับกิจการอะไร เพราะฉะนั้นทนายจะเป็นคนไปจดทะเบียน แต่เวลาจะทำอะไรก็ต้องแจ้งอีกทีว่าจะออกภาษีมูลค่าเพิ่มกิจการอะไร ถ้าคุณทำสื่อก็ต้องแจ้งว่าทำธุรกิจสื่อ ก็ออกเอกสารเรื่องการชำระภาษีมูลค่าเพิ่มเรื่องสื่อ
“พอมาเป็นอย่างนี้กฎหมายเขียนว่าห้ามไม่ให้เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชน ถ้าดูตามหลักกฎหมาย คำว่า “กิจการ” แปลว่าจะต้องทำการด้านนั้น ไปเปิดพจนานุกรมดูได้ แต่คนที่มีอำนาจจะชี้แบบไหนเราก็ไม่สามารถขัดขืนได้ เราก็ต้องดูว่าเราจะชี้แจงกันอย่างไร ก็ว่ากันมาอีกทีหนึ่ง แต่หลักมันมาอย่างนี้ แต่ถ้าเขามีอำนาจแล้วชี้มา เราจะไปเถียงอะไรเขา แต่หลักกฎหมายมันเป็นมาอย่างนี้”นายพีระพันธุ์ กล่าว
เมื่อถามว่าประเด็นที่ถูกร้องเรื่องถือหุ้นสื่อจะกระทบกับการจะเสนอตัวชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกัน เพราะตนยังไม่ได้ตัดสินใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าจะลงสมัครชิงหัวหน้าพรรคหรือไม่ และขณะนี้ตนก็มีเลขาธิการพรรคในใจแล้ว ซึ่งทั้งหมดจะตัดสินใจชัดเจนในสัปดาห์นี้.