ข่าวเตือน"ไดคลาซีแพม"ยาเสพติดชนิดใหม่ระบาดหนัก! - kachon.com

เตือน"ไดคลาซีแพม"ยาเสพติดชนิดใหม่ระบาดหนัก!
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดย สำนักยาและวัตถุเสพติด ได้รับของกลางจากกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาโดยมีลักษณะเป็นเม็ดกลมแบนสีฟ้า ด้านหนึ่งมีตัวอักษร “D A N” และตัวเลข “5 6 2 0” อยู่บนแต่ละข้างของขีดแบ่งครึ่งเม็ด อีกด้านหนึ่งมีตัวเลข “10” จำนวน 99,850 เม็ด ซึ่งจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และส่งตรวจพิสูจน์โดยเนื่องจากมีข้อสงสัยว่าเป็นยาไดอาซีแพม (Diazepam) ซึ่งจัดเป็น วัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 ตามพ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2559 แต่จากการตรวจพิสูจน์พบว่าไม่พบไดอาซีแพม แต่เป็นไดคลาซีแพม ซึ่งเป็นยาที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบยุโรปมีการนำไปใช้ในทางที่ผิด ปัจจุบันยังไม่ได้มีการควบคุมทางกฎหมายโดยสหประชาชาติ รวมถึงประเทศไทย แต่มีการควบคุมเช่นเดียวกับไดอาซีแพม


นพ.โอภาส กล่าวต่อว่า ไดคลาซีแพม เป็นยาคลายเครียดในกลุ่มเบนโซไดอาซีปีน เช่นเดียวกับ ไดอาซีแพม ออกฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลาง และมีโครงสร้างทางเคมีคล้ายไดอาซีแพม แต่มีฤทธิ์รุนแรงกว่าประมาณ 10 เท่า สังเคราะห์ขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี2503 แต่ไม่ถูกนำมาใช้เป็นยาทางการแพทย์ และไม่มีข้อมูลการศึกษาประสิทธิภาพ  และความปลอดภัยในมนุษย์ เนื่องจากพบว่าเสพติดได้ง่ายแม้ใช้ในขนาดปกติ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะเปลี่ยนเป็นสารที่ออกฤทธิ์ได้เช่นเดียวกันอีก 3 ชนิดก่อนขับออกจากร่างกายทางปัสสาวะซึ่งสามารถตรวจพบได้นานถึง 10 วันหลังการใช้ ทั้งนี้ การตรวจพบไดคลาซีแพมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการแพร่ระบาดแล้วในประเทศไทย ทางกรมวิทยาศาสตร์ฯ จะเสนอข้อมูลให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ เพื่อใช้ในการพิจารณาควบคุมทางกฎหมาย  เฝ้าระวังการแพร่ระบาด

“ไดคลาซีแพมจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ชนิดใหม่ที่มีการนำไปใช้ในทางที่ผิดและแพร่ระบาดมากในต่างประเทศ มักลักลอบขายทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งการใช้ยาติดต่อกันในปริมาณสูงจะทำให้เกิดอันตรายได้ง่าย โดยพบรายงานการเข้ารักษาในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตจำนวนมากในหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร, สวีเดน, เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ไดคลาซีแพมร่วมกับยาเสพติดชนิดอื่นๆ เช่น ออกซิโคโดน มอร์ฟีน และเฮโรอีน หรือใช้พร้อมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งมีฤทธิ์กดระบบประสาทส่วนกลางเช่นเดียวกัน มีผลให้ปริมาณ ไดคลาซีแพม ในร่างกายสูงเกินขนาด ทำให้หายใจลำบาก โคม่า และเสียชีวิตได้ในที่สุด” นพ.โอภาส กล่าว.