ข่าวกกต.เนื้อหอมว่าที่ส.ส.ใหม่ทยอยตบเท้าเข้าใบรับรอง - kachon.com

กกต.เนื้อหอมว่าที่ส.ส.ใหม่ทยอยตบเท้าเข้าใบรับรอง
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามที่ กกต.ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต ไปเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) บรรยากาศที่ กกต. เมื่อช่วงเช้าส่งผลให้ผู้สมัคร ส.ส.ที่ได้รับการรับรองทยอยเดินทางมารับหนังสือรับรองการเลือกตั้ง ที่สำนักงาน กกต. กันอย่างคึกคัก เพื่อนำใบรับรองไปรายงานตัวที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อาคารัฐสภา (เกียกกาย) โดยผู้สมัคร ส.ส.ที่เดินทางมานั้น อาทิ นายชุมพล จุลใส ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ นายธาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัติย์ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม พรรคประชาธิปัตย์ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ นายไพโรจน์ โล่สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย นายสุรพงษ์ อึ้งอัมพรวิไล ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ เป็นต้น   

ทั้งนี้ทาง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. ได้มาตรวจความเรียบร้อยการรับมอบหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แบบแบ่งเขต ที่บริเวณห้องประชุม 201  โดยพ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า สำนักงาน กกต. จะเปิดให้ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขต มารับหนังสือรับรองได้จนถึงวันที่ 11 พ.ค. นี้ โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ เมื่อ ส.ส. ได้รับเอกสารแล้ว ก็สามารถนำหนังสือรับรองดังกล่าวไปรายงานตัวที่สภาได้ทันที ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ต้องรอมติของที่ประชุม กกต. อีกครั้ง ว่าจะประกาศเมื่อใด

ด้านนายถาวร กล่าวว่า เป็นสมัยที่ 7 แล้ว ก็ปกติไม่ได้ตื่นเต้น การเป็นผู้แทนราษฎรเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน 5-6 ปีมานี้เราก็ยังทำหน้าที่เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนอยู่ ดังนั้นจะได้รายงานตัวช้าหรือเร็วก็ไม่มีปัญหา ที่สำคัญก็คือว่าเป็นช่วงเวลามีงานมหามงคลของพี่น้องปวงชนชาวไทย ก็ถือว่าไม่เป็นปัญหาอะไร

เมื่อถามว่ากังวลกับรายชื่อ ส.ว.หรือไม่ หลังมีรัฐมนตรีลาออกมาเป็น ส.ว. นายถาวร กล่าวว่า คนที่เคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้วตนถือว่าผ่านประสบการณ์ทั้งการรับราชการ การเป็นฝ่ายบริหาร แล้วจะมาเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ก็ถือว่าท่านได้ผ่านประสบการณ์หลายๆ อย่าง ตนก็ยินดีด้วย ไม่กังวลอะไร


เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้ส.ส.มีคนรุ่นใหม่เข้ามาเยอะ กังวลหรือไม่ในการทำงานระหว่างคนรุ่นใหม่กับรุ่นเก่า นายถาวร กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายปรับตัวเข้าหากันเพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองให้ได้ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของพี่น้องประชาชนให้ได้ แล้วก็เพื่อความสงบสุขของประเทศชาติเราให้ได้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติในการทำงานร่วมกัน 500 คน อาจจะมีความคิดต่างกันบ้าง แต่ถ้าไม่ทะเลาะกัน ยึดถือผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เสียงข้างมากให้คำนึงถึงเสียงข้างน้อย เพราะเขาเป็นตัวแทนประชาชนด้วย เสียงข้างน้อยก็อย่าค้านตะพึดตะพือจนขาดเหตุผล ให้ยึดผลประโยชน์ประเทศชาติ พี่น้องประชาชนเป็นหลัก ทุกอย่างก็จะดีเอง

ด้านนายกษิดิ์เดช ส.ส.เขต 8 กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกร้องเรื่องถือหุ้นสื่อ อาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. กล่าวว่า ไม่กังวลกับการที่ถูกร้องเรื่องถือหุ้นสื่อ เนื่องจากว่าบริษัทไม่มีเจตนาจดทะเบียนเพื่อประกอบกิจการสื่อโดยตรง แต่จดทะเบียนเพื่อประกอบกิจการรับเหมาก่อนสร้าง จะต้องดูเจตนาเป็นหลัก จะยึดใบบริคณห์สนธิที่มีการกำหนดวัตถุประสงค์การจดทะเบียนบริษัทครอบคลุมไปถึงธุรกิจสื่อไม่ได้ อีกทั้งบริษัทดังกล่าวร้างมา 10 ปีแล้ว เพียงแต่ไม่ได้ไปทำเรื่องยกเลิกกิจการกับกระทรวงพาณิชย์ จึงไม่ได้รู้สึกกังวล เพราะใช้หลักการนี้เอาผิดกับตนก็คงมีส.ส.อีกกว่า 100 คน ที่จะต้องถูกดำเนินการเช่นเดียวกัน


นอกจากนี้ นายถาวร และนายชุมพล ได้เดินทางเข้ารายงานตัวส.ส. ที่รัฐสภาใหม่ โดยนายถาวร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการายงานตัวว่า การทำงานของส.ส.สิ่งแรกต้องยึดผลประโยชน์ทั้งของประชาชน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญต้องยึดอุดมการณ์ของพรรคซึ่งต้องเป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม นอกจากนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยังมีวินัยและมติพรรคที่บัญญัติไว้มาเป็นเวลา 73 ปีแล้ว ไม่ว่ามติพรรคจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม ทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นส่วนตัว แต่คนอื่นอาจคิดเป็นแบบอื่นได้ เพราะถือเป็นเอกสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ

นายถาวร กล่าวถึงถึงความเคลื่อนไหวการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค เพื่อเลือกหัวหน้าประชาธิปัตย์ในวันที่ 15 พ.ค.นั้น มีทั้งหมด 4 คน ได้แก่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์  รักษาการหัวหน้าพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ซึ่งเราได้เชิญให้ผู้สมัครทั้งหมดมาแสดงวิสัยทัศน์ ณ ที่ทำการพรรค  แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมาบ้าง โดยในวันที่ 9 พ.ค. เวลา 13.00 น.  จะเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ต่อสมาชิกภาคใต้ ส่วนวันที่ 10 พ.ค. เป็นของภาคกลาง  วันที่ 11 พ.ค.เป็นของภาคอีสาน 

เมื่อถามถึง กระแสข่าวว่ามีชื่อเป็นเลขาธิการพรรคในทีมของนายพีระพันธุ์ นายถาวร กล่าวยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นเลขาธิการให้ใคร แต่มีชื่ออยู่ทุกกลุ่ม ส่วนเรื่องจุดยืนในการร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ส่วนตัวคิดว่าไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่เดินพบปะประชาชนจนหาเสียง  เพราะต้องการให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้.