ข่าวข้องใจคุณสมบัติ'ชูวิทย์'ส.ส.อุบลฯ ชี้มีคดีแจกข้าวสารซื้อเสียง - kachon.com

เมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายปริญญา สร้อยสิงห์ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง กกต. เพื่อติดตามทวงถามผลการดำเนินคดีอาญากับนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ส.ส.เขต 7 อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย และนายสิทธิชัย พันคำ อดีตนายกฯอบต. เนื่องจาก กกต.มีคำวินิจฉัยที่ 462/2557 ลงวันที่ 22 ก.ค.2557 เรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบลโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อให้เพิกถอนสิทธิการเลือกตั้งของ นายชูวิทย์ และนายสิทธิชัย ให้ดำเนินคดีอาญากับบุคคลทั้งสอง ต่อมา กกต.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ภาค 3 เพื่อดำเนินคดีนายสิทธิชัย ตนจึงมีความประสงค์จะขอทราบความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ ว่าหลังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 มีคำสั่งให้นายสิทธิชัย พ้นจากตำแหน่งนายกฯอบต. โขงเจียมแล้ว ทาง กกต.ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ และสิทธิชัย ทั้งทางเพ่งและอาญาหรือไม่อย่างไร หาก กกต.ร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว กระบวนการอยู่ในขั้นตอนใด และหากไม่มีการดำเนินการคดี เรื่องดังกล่าวได้ยุติลงอย่างไร

นายปริญญา กล่าวว่า ในการเลือกตั้งนายก อบต.โขงเจียม เมื่อช่วงปี 2556 นายชูวิทย์ ได้ไปช่วยนายสิทธิชัย หาเสียงและเเจกข้าวสารเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ลงคะเเนนเลือกนายสิทธิชัย จนกระทั้ง กกต.มีมติเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายสิทธิชัย รวมทั้งให้ดำเนินคดีอาญา กับนายชูวิทย์ และนายสิทธิชัย กรณีดังกล่างหากมีการดำเนินคดีจะส่งผลให้นายชูวิทย์ ขาดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเมื่อได้รับแจ้งผลความคืบหน้าการดำเนินคดีจาก กกต. ตนจะมายื่นร้องคัดค้านอีกครั้ง

ขณะเดียวกันด้านนายชูวิทย์ ได้เดินทางมารับหนังสือรับรองการเลือกตั้ง โดยกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีดังกล่าวนั้นศาลได้ยกคำร้องไปหมดแล้ว ถ้ายังไม่ยกคำร้องตนจะมาสมัคร ส.ส.ได้อย่างไร เพราะรู้ตัวดีว่าหากศาลไม่ยกคำร้องตนก็จะไม่มีคุณสมบัติ ไม่สามารถมาสมัครได้.