เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า ขณะนี้พรรคเล็กรวมกลุ่มกันได้ 10 พรรคแล้ว มี10เสียง ได้แก่ พรรคพลังชาติไทย พรรคประชาภิวัฒน์ พรรคไทยศรีวิไลย์ พรรคพลังไทยรักไทย พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคประชานิยม พรรคประชาธรรมไทย พรรคพลเมืองไทย พรรคพลังธรรมใหม่ พรรคไทรักธรรม ซึ่ง10พรรคเล็กนี้จะไปไหนไปกัน เพื่อให้เกิดพลังในการต่อรอง ถ้าต่างคนต่างเดินจะไม่มีพลังในในการเจรจาใดๆ หลังจากนี้คงต้องให้แต่ละพรรคไปประชุมพรรค เพื่อขอมติพรรคต่างๆในพรรคของตัวเองก่อน เท่าที่คุยกันเบื้องต้น10 พรรคเล็ก จะไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ส่วนการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ยังไม่ได้คุยกัน ต้องคุยกับพรรคพลังประชารัฐอีกครั้ง เราไม่ยื่นเงื่อนไขต่อรองตำแหน่งใดๆในการร่วมรัฐบาล

นายพิเชษฐ กล่าวถึง กรณีลูกพรรคประชาธรรมไทยยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคประชาธรรมไทย เพราะตนเคยต้องโทษ ถูกเว้นวรรคทางการเมืองไม่สามารถลงสมัครส.ส.ได้นั้น ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาใดๆ ยอมรับว่า เคยถูกป.ป.ช.ลงมติแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จ ถูกเว้นวรรคการเมือง 5ปี ขณะนี้พ้นโทษแล้ว สามารถมาลงสมัคร ส.ส.ได้ ไม่มีปัญหา ถ้าตนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติจริง กกต.คงไม่ให้ตนลงสมัครส.ส.แน่ เพราะตนเป็นหัวหน้าพรรค เชื่อว่า กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติตนเรียบร้อยแล้ว จึงให้ลงสมัคร
ด้านนายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ ซึ่งมี 1 เสียง กล่าวว่า พรรคประชาธิปไตยใหม่ จะไม่ไปรวมกับพรรคเล็กพรรคอื่นๆ แม้จะมีความพยายามติดต่อให้พรรคประชาธิปไตยใหม่ไปรวมกลุ่มด้วย แต่จะไม่ไปร่วมด้วย แต่จุดยืนที่แน่นอนของพรรคคือ จะไปร่วมกับฝั่งที่เป็นรัฐบาลแน่นอน ไม่เกี่ยงว่าฝ่ายใดได้เป็นรัฐบาล เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีแล้วแต่ว่า จะได้รับหรือไม่ ถ้าให้ก็พร้อมรับตำแหน่ง.