'ชัช เตาปูน'ย้ำชัดร่วมพปชร.พร้อมโหวต'บิ๊กตู่'นั่งนายกฯ
การเมือง
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไทและส.ส.บัญชีรายชื่อ เดินทางมารับหนังสือรับรองส.ส.เพื่อนำไปรายงานตัวที่สภา โดยได้ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนทางการเมืองในการจัดตั้งรัฐบาล ว่า เราเอาสถาบันเป็นหลัก ถ้าใครดูแลสถาบันและปกป้องสถาบันเราก็ยืนข้างนั้น ส่วนจะโหวตพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯหรือไม่นั้น ถ้าเสนอมาตามระเบียบเราก็โอเค ไม่มีลูกเล่นอะไรก็ทำ อะไรไม่ดีก็ไม่ทำ ซึ่งการประสานของพรรคพลังประชารัฐนั้นมีมานานแล้ว แต่เราเฉยๆ ส่วนการรวมตัวกับพรรคเล็กเพื่อมีพลังในการขับเคลื่อนทางการเมืองในอนาคตหรือไม่นั้น สำหรับตนอะไรที่ดีกับประเทศชาติ ตนยกมือให้ เราไม่จำเป็นต้องมีกลุ่มก้อนเพื่อต่อรองใคร การทำให้ประเทศชาติไม่ต้องต่อรองใคร
เมื่อถามว่า เท่ากับรวมพลังท้องถิ่นเป็นรัฐบาลกับพลังประชารัฐได้แล้วใช่หรือไม่ นายชัชวาลล์ ตอบว่า ตนก็คิดว่าอย่างนั้น แต่ไม่ต้องคุยอะไรกัน เรามีจุดยืนและปณิธานของเรา อะไรที่ประเทศไปได้ เราทำหมด จะมีหรือไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีตนไม่สน ไม่จำเป็น อะไรที่ทำให้ประเทศเดินหน้าได้ตนจะทำ ส่วนที่มีคนมองว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำอยู่ยากนั้น ก็คงเป็นอย่างนั้น พูดยากข้างหน้าเราไม่รู้อะไรจะเกิดขึ้น การเมืองยังลึกซึ้งมากกว่าที่จะไปวิจารณ์
ด้านนายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางเข้ารับหนังสือรับรองการเป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่า วันนี้ตนได้เดินทางมารับหนังสือด้วยตนเอง เพื่อเป็นการให้เกียรติต่อระบบการเลือกตั้ง ซึ่งอย่างน้อยก็ดีใจว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ล้ม และมีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งตามเวลา และสามารถไปต่อได้ ส่วนจะไปแบบไหนนั้นก็ต้องดูกันอีกที ส่วนผลการคำนวณสูตรส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อนั้น ตนก็ยังมองว่ามีปัญหา เพราะคำนวณแล้วพรรคชาติไทยพัฒนามีโอกาสจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อ5 คน แต่ตอนนี้เหลือ4คน ก็ยอมรับตามนี้ ซึ่งการที่มีปัญหาตรงนี้ส่วนตัวคิดว่ากฎหมายลูกมีปัญหา แต่ที่ศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แม้ไม่ขัดก็ไม่ได้แปลว่าสมบูรณ์ เพราะมีปัญหาภายใน ตอนนี้ก็ให้ผ่านไปก่อน ยอมรับว่าระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมครั้งนี้ ไม่เคยมีที่ใดใช้มาก่อน ประเทศไทยเป็นประเทศแรกและก็มีปัญหาแล้ว ก็ต้องหาทางแก้ไขกันต่อไป กฎหมายลูกแก้ไขได้ แต่รัฐธรรมนูญแก้ยากมาก
เมื่อถามว่า พรรคการเมืองที่เสียประโยชน์ หาช่องทางที่จะเอาผิดทางกฎหมาย นายนิกร กล่าวว่า ยากมาก เพราะการจะยื่นทำได้อย่างเดียวคือต้องดูว่ามีการทุจริตหรือไม่ ซึ่งก็ไม่มี มันเป็นข้อขัดข้องทางกฎหมาย เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งศาลก็จะชี้แล้วว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาคงไม่ยื่นแม้จะเสียไป1ที่นั่งก็ยอมรับ
เมื่อถามถึง จุดยืนในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล นายนิกร กล่าวว่า เราเป็นพรรคเล็ก จะไปรายงานตัวพร้อมกันในวันที่ 14พ.ค.นี้ ในเรื่องนี้ยอมรับว่ามีการประสานมาในหลายๆ ทาง การตัดสินใจขณะนี้ยังไม่ชัดเจน จะมีการคุยกันในวันที่ 14พ.ค.นี้ สถานการณ์ตอนนี้ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ร่วมแรงปฏิรูปประเทศ เวลาตัดสินใจแต่ละครั้ง ไม่ได้มองว่าเอาตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้มาแลก แต่ตัดสินใจว่ามันจะเกิดผลอะไรต่อบ้านเมือง พรรคชาติไทยพัฒนาอยู่ตรงไหนก็แล้วแต่ จะต้องมีรัฐบาล ส่วนจะอยู่สั้นอยู่ยาวก็เป็นไปตามกรรม
เมื่อถามว่า มีการจัดให้พรรคชาติไทยพัฒนาไปรวมกับขั้วพรรคพลังประชารัฐแล้วนั้น นายนิกร กล่าวว่า ก็รวมกันไป เราเป็นกลางตั้งแต่ก้าวแรกที่เราเดินแล้ว เราเป็นห่วงเสถียรภาพของรัฐบาล ตอนที่นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจรับร่างรัฐธรรมนูญ แต่ตนไม่รับ เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญมีปัญหา นายบรรหารก็บอกตนว่าส่วนตัวจะรับร่างรัฐธรรมนูญไปก่อน เพื่อให้ประเทศมีการเลือกตั้ง ถ้าไม่มีเลือกตั้ง ประเทศไปต่อไม่ได้ เมื่อเลือกแล้วก็ให้มีรัฐบาลไป ส่วนจะดีหรือไม่ดีอย่างไร ก็ว่ากันต่อไปแล้วแต่สถานการณ์ เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่การโหวตเลือกนายกฯ ของส.ส.ในพรรค อาจจะแตกต่างกัน นายนิกร กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น เพราะเราไม่ค่อยมีลักษณะแบบนั้น ทุกคนต้องแสดงตัวหมด.