ข่าวอภัยโทษ5แกนนำพันธมิตรฯ ก้าวขาพ้นคุกรับอิสรภาพ - kachon.com

อภัยโทษ5แกนนำพันธมิตรฯ ก้าวขาพ้นคุกรับอิสรภาพ
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มีปล่อยตัวผู้ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งมี5 แกนนำพันธมิตร​ฯ คือ​ พลตรี จำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และนายสุริยะใส กตะศิลา​ รวมอยู่ด้วยมีกลุ่มคนและครอบครัว​ เดินทางมารับแกนนำในครั้งนี้ โดยเมื่อนาทีที่ 5แกนนำได้รับการปล่อยตัว ครอบครัวและกลุ่มแนวร่วมพันธมิตร​ฯ ได้เข้ามาสวมกอดแสดงความยินดี ก่อนมาก้มกราบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เปล่งเสียง”ทรงพระเจริญ”อย่างกึกก้องและซาบซึ้งใน พระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ  ก่อนถ่ายรูปร่วมกันอย่างอบอุ่น


นายสมเกียรติกล่าวว่า ตนในฐานะพสกนิกรของพระองค์ท่านถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างยิ่ง เป็นเรื่องน่ายินดี ทั้งนี้ตนได้ศึกษาพระราชกฤษฏีกา พบว่าในพระราชกฤษฎีกาครั้งนี้มีความพิเศษคือ 1.ก่อนจะปล่อยนักโทษออกจากเรือนจำนั้น ทางกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงกลาโหม มีการจัดอบรมหลักสูตร 5วันเตรียมการนักโทษก่อนปล่อยตัว เมื่อนักโทษรู้ว่าจะได้ปล่อยตัว ก็ถึงกับส่งเสียงดังเลยทีเดียว 2.ในมาตรา17ของพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ มี7หน่วยงานประกอบด้วย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เข้ามาดูแลช่วยเหลือประชาชนไม่ให้นักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวไปกระทำผิดซ้ำอีก ถือว่าเป็นพระราชปณิธานของพระองค์ที่ต้องการให้บ้านเมืองสงบสุข ให้คนเป็นคนดี 


นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ตนถือว่าได้ทำหน้าที่ในฐานะปวงชนชาวไทยในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ เมื่อศาลมีคำตัดสิน พวกตนก็เคารพ ไม่ได้หลบหนี เมื่อออกจากเรือนจำแล้ว ก็จะทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติต่อไป โดยจะตรวจสอบเรื่องการทุจริตและความเหลื่อมล้ำในสังคม ส่วยนายสนธิ ลิ้มทองกุลนั้น พวกตนไม่ได้พบที่เรือนจำ แต่เจอกันที่ใต้ถุนของศาล พบว่าสบายดีแต่ก็มีปัญหาเรื่องสุขภาพบ้าง


นายสุริยะใสกล่าวว่า จากนี้ไปถือเป็นบทเรียนชีวิต การติดคุกไป87วัน ก็ได้คิดทบทวน ยืนยันว่าไม่เปลี่ยนแนวทางพร้อมพิสูจน์ความสุจริตในกระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าคำตัดสินศาลจะเป็นอย่างไร การหนีคดี การวิจารณ์ศาล ไม่ทำให้ชาติบ้านเมืองดีขึ้น จากนี้ก็จะสู้คดีต่อไป ตนขอขอบคุณทางเรือนจำ ตนไม่อยากให้มองนักโทษว่าเป็นขยะ เป็นคนเลว ต้องปรับทัศนคติตรงนี้ ตนขอเรียกร้องปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมเพื่อช่วยให้เกิดความสงบสุข ทั้งนี้ในเรือนจำตนได้พบคนเสื้อแดง ก็ได้นั่งคุยกันทั้งเรื่องการเมือง ชีวิต เห็นอกเห็นใจกัน ก็ได้สรุปบทเรียนของใครของมัน แกนนำก็วิจารณ์ความผิดพลาดของตัวเอง ได้วิจารณ์ตัวเอง จากนี้แต่ละคนก็คงจะเขียนหนังสือบอกเล่าเรื่องราวในเรือนจำตามความถนัดของใครของมัน ส่วนการเคลื่อนไหวของพวกตนนั้น ขอเรียนว่าแกนนำได้ยุติบทบาทไปแล้ว ที่ผ่านมาก็ติดคุกไม่ได้อ่านข่าว ตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหว ต้องมาพูดคุยหารือกันอีกที


นายพิภพเผยว่า อยากให้มีการทบทวนกระบวนการยุติธรรม ไม่ให้ส่งคนเข้าคุกอย่างเดียว ต้องมีระบบใหม่ ตนอยากให้คณะนิติศาสตร์ทั่วประเทศไม่ให้สอนกฎหมายแบบท่องจำ แต่ต้องวิจัยหาวิธีการให้คนเข้าคุกน้อยสุด รวมถึงมหาวิทยาลัยทั่วประเทศควรมีวิชาคุกศึกษาเพื่อให้รู้ว่าคุกนั้นจริง ๆ เป็นอย่างไร
ด้านพล.ต.ต.จำลอง เผยสั้น ๆ ว่า ตนสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องขัง