ข่าวพปชร.เครียดหนักมาก!พรรคร่วมไม่เอา"บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก" - kachon.com

พปชร.เครียดหนักมาก!พรรคร่วมไม่เอา"บิ๊กป้อม-บิ๊กป๊อก"
การเมือง

photodune-2043745-college-student-s
g,njvวันที่ 10 พ.ค.62 แหล่งข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา ไม่พอใจการแบ่งโควต้ารัฐมนตรี เพราะไม่ยอมปล่อยกระทรวงหลักและกระทรวงเศรษฐกิจว่า ยอมรับว่ากรณีดังกล่าวนี้เป็นอุปสรรคในการจัดตั้งรัฐบาล ที่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคสช. จะลงมาเกลี่ยและจัดสรรตำแหน่งใหม่  จากเดิมที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ  เป็นผู้จัดการตั้งรัฐบาล และกำหนดโควต้าเศรษฐกิจไว้กับพปชร.ทั้งหมด แต่หลังจากเลือกตั้งสถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนไปพปชร. ไม่ได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง จึงจำเป็นต้องเดินเข้าไปหาและชวนพรรคการเมืองต่างๆ  เพื่อขอเสียงสนับสนุนให้ได้เสียงเกิน 251 เสียง จึงจะบริหารประเทศได้ตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมทั้งแกนนำบางส่วนต้องเปลี่ยนวิถีคิดเพราะตอนนี้ไม่ใช่ช่วงรัฐประหารที่ รัฐบาลคสช. จะยึดทุกกระทรวงที่ต้องการเอาไว้ในมือได้    

“ พปชร. ต้องยอมปล่อย กระทรวงหลัก หรืออย่างน้อยตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยในกระทรวงเศรษฐกิจออกไปบ้าง ให้แก่พรรคร่วมรัฐบาลบ้าง เพื่อให้การเจรจากับพรรคการเมืองต่างๆเดินไปได้ และสร้างความพึงพอใจให้แก่พรรคการเมืองต่างๆ โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย  พรรคชาติไทยพัฒนา ที่เป็นคะแนนเสียงเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะทำให้พปชร. เป็นรัฐบาลได้ เพราะหากพวกเขาไม่พอใจจริงๆ และไปตั้งรัฐบาลแข่ง หรือบางพรรคแยกตัวไปจับมือกับพรรคเพื่อไทยจริง ผู้จัดตั้งรัฐบาล อาจจะไม่ได้อยู่ในเงื้อมมือของพปชร. อีกต่อไปเพราะเราก็มีแค่115 เสียง” แหล่งข่าว ระบุ

นอกจากนี้ แหล่งข่าวยังได้กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังพบเงื่อนไขใหม่ที่ทำให้พรรคการเมืองต่างๆ ยังไม่ตอบรับการร่วมรัฐบาลจากพปชร. คือยอมรับพล.อ.ประยุทธ์  เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีและเป็นหัวหน้าครม.เพียงคนเดียวเท่านั้น เพราะมาจากการเลือกตั้งตามระบบรัฐธรรมนูญ พร้อมปฏิเสธ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าคสช. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย  และบุคคลอื่นๆ ที่มาจากคสช. ที่จะเข้ามานั่งในครม.  เพราะเป็นการย้ำภาพการสืบทอดอำนาจอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ พล.อ.ประวิตร ถือเป็นจุดอ่อนทั้งปมปัญหาในอดีต มาถึงปัจจุบัน ที่สังคมไม่ยอมรับ โดยเฉพาะสถานการณ์ล่าสุดในการสรรหาสว. จำนวน 250 คน  เกิดกระแสต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร แรงขึ้นเรื่อยๆ  เพราะใช้ระบบพวกพ้อง นำบุคคลในคสช.  รัฐมนตรี   สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สมาชิกสภาขับเคลื่อนการจปฏิรูปประเทศ   (สปท.) สมาชิกสมาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) รวมทั้งระบบพี่ตั้งน้องมาเป็นส.ว.สรรหา สืบทอดอำนาจ 5 ปี โดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง.